โฮจิฉะคือ

รู้จักกับโฮจิฉะ ชาเขียวคาเฟอีนน้อย มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

Feb 25, 2024Beno smartliving

หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชื่อ "โฮจิฉะ" เท่ามัทฉะ แต่จริง ๆ แล้วโฮจิฉะก็เป็นชาเขียวญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์และได้รับความนิยมไม่แพ้กัน วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องที่คนอยากรู้เกี่ยวกับโฮจิฉะ เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักชาชนิดนี้มากยิ่งขึ้น พร้อมเคลียร์จบประเด็นโฮจิฉะ กับ มัทฉะ แตกต่างกันอย่างไร? ใช่ชาตัวเดียวกันไหม? ไปดูกัน

 

โฮจิฉะ คืออะไร? 

 

โฮจิฉะ

 

โฮจิฉะ (Hojicha) คือ ชาเขียวคั่ว มาจากคำว่าโฮจิ (Hoji) แปลว่า คั่ว และ ฉะ (Cha) ที่แปลว่า ชา นั่นเอง และแน่นอนว่ามีถิ่นกำเนิดจากเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งโฮจิฉะจะมีลักษณะเด่นที่การคั่วใบชาให้มีสีทองหรือสีน้ำตาลอ่อน แทนการใช้ใบชาเขียวสด ๆ ที่มักพบในชาเขียวประเภทอื่ ๆ  โฮจิฉะสามารถทำจากใบชาหรือกิ่งก้านของต้นชา แล้วนำมาคั่วในอุณหภูมิสูงจนกลายเป็นสีเหลืองทองหรือสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งทำให้รสชาติของชาไม่ขมเหมือนชาเขียวที่ไม่คั่ว และมีกลิ่นหอมของถั่วคั่วหรือขนมปังคั่วนั่นเอง

 

การคั่วใบชาโฮจิฉะ

ใบชาโฮจิฉะจะผ่านกระบวนการคั่วที่อุณหภูมิ 200-300 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นจะถูกนำไปเข้ากระบวนการทำให้เย็นตัวลงอย่างรวดเร็ว ทำให้โฮจิฉะมีสีเข้มขึ้น และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่แตกต่างจากชาเขียวทั่วไป เป็นกลิ่นคั่วอ่อน ๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโฮจิฉะ นอกจากนั้นด้วยกระบวนการคั่วทำให้สารคาเทชินและคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟลดลง ซึ่งสารดังกล่าวเป็นสารที่ทำให้เกิดรสชมในชา ดังนั้นโฮจิฉะจึงเป็นชาเขียวที่ดื่มง่าย นุ่ม ละมุนไม่ฝาด เพราะมีคาเฟอีนน้อยกว่าชาเขียว

 

โฮจิฉะ มีประโยชน์อย่างไร?

โฮจิฉะมีส่วนผสมที่มีประโยชน์หลายอย่างและเมื่อดื่มเป็นประจำยังมีประโยชน์มากมาย

1. ช่วยปรับระดับคอเรสเตอรอลให้ดีขึ้น

ในโฮจิฉะมีสารคาเทชินเหมือนชาเขียว ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดระดับคลอเตอรอล แต่มีรสขมและคาเฟอีนน้อยกว่าชาเขียวแบบอื่น จึงทำให้ดื่มง่ายกว่า เด็กก็สามารถดื่มได้ และสามารถดื่มได้ตลอดทั้งวัน

2. บำรุงสายตา

ในโฮจิฉะอุดมไปด้วยวิตามินเอซึ่งเป็นสารที่ช่วยบำรุงสายตา เมื่อดื่มโฮจิฉะเป็นประจำจึงช่วยบำรุงสายตาให้ดีขึ้น

3. ป้องกันหวัดและดูแลผิวพรรณ

นอกจากวิตามินเอแล้ว ใจโฮจิฉะยังมีวิตามินซีและอีในปริมาณสูง จึงช่วยบำรุงสายตา ป้องกันหวัด และยังทำให้ผิวพรรณชุ่มชื้น สุขภาพดีขึ้นกว่าเดิม

4. ช่วยลดน้ำหนัก

สารคาเทชินในชาเป็นสารที่ช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจะเพิ่มอัตราการเผาผลาญในร่างกาย และช่วยลดการสะสมไขมันใหม่โดยไม่มีผลข้างเคียง

5. ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์

ในโฮจิฉะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก เมื่อดื่มเป็นประจำจึงช่วยให้ลดความเสื่อมของเซลล์ และลดโอกาสการเกิดเซลล์มะเร็งด้วย

6. โฮจิฉะช่วยคลายความเครียด

กลิ่นหอมของโฮจิฉะช่วยให้ผ่อนคลาย เมื่อดื่มโฮจิฉะที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จึงช่วยลดความเครียดได้

 

โฮจิฉะมีกี่ชนิด?

 

ประเภทของโฮจิฉะ

 

โฮจิฉะ (Hojicha) เองมีหลายประเภทหรือชนิดที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับวิธีการผลิตและส่วนประกอบที่ใช้ โดยแบ่งออกเป็นหลัก ๆ ดังนี้

1. เซนฉะโฮจิฉะ (Sencha Hojicha): ทำจากใบเซนฉะ ซึ่งเป็นใบชาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของญี่ปุ่น มีรสชาติที่สมดุล มีความฝาดเล็กน้อย และมีกลิ่นหอมสดชื่น เมื่อนำมาคั่วเป็นโฮจิฉะ จะได้รสชาติที่นุ่มนวลขึ้น มีกลิ่นหอมคั่วที่โดดเด่น

2. บันฉะโฮจิฉะ (Bancha Hojicha): ทำจากใบชาบันฉะ ซึ่งเป็นใบชาที่มีคุณภาพต่ำกว่าเซนฉะ มีรสชาติที่อ่อนกว่าและมีปริมาณคาเฟอีนน้อยกว่าเซนฉะ เมื่อนำมาคั่วเป็นโฮจิฉะ จะได้รสชาติที่เบา ดื่มง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการคาเฟอีน

3. คุคิฉะโฮจิฉะ (Kukicha Hojicha): ทำจากก้านชา มีรสชาติที่หวานและมีกลิ่นหอมคล้ายถั่ว เมื่อนำมาคั่วเป็นโฮจิฉะ จะได้รสชาติที่หวานขึ้นและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว

4. เกียวคุโระโฮจิฉะ (Gyokuro Hojicha): ทำจากใบเกียวคุโระ ซึ่งเป็นใบชาที่มีคุณภาพสูงและมีราคแพงที่สุดในบรรดาชาเขียวญี่ปุ่น มีรสชาติที่หวานและมีกลิ่นหอมคล้ายสาหร่ายทะเล เมื่อนำมาคั่วเป็นโฮจิฉะ จะได้รสชาติที่เข้มข้นและมีกลิ่นหอมที่ซับซ้อน

 

โฮจิฉะ กับ มัทฉะ ต่างกันอย่างไร

หลายคนคงเคยได้ยินชาเขียวญี่ปุ่นยอดฮิตอย่าง โฮจิฉะ และ มัทฉะ แต่บางทีก็ยังงง ๆ อยู่ใช่ไหมว่าจริง ๆ แล้ว โฮจิฉะกับมัทฉะต่างกันอย่างไร เราจะมาเจาะลึกให้เห็นภาพชัด ๆ ว่าทั้งสองแบบต่างกันยังไง ?

  • โฮจิฉะ (Hojicha) : คือชาเขียวที่ผ่านการคั่วที่อุณหภูมิสูง ทำให้ใบชาเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน ๆ หรือน้ำตาลอมแดง มีกลิ่นหอมคล้ายถั่วคั่ว หรือคาราเมล คาเฟอีนจะน้อยกว่ามัทฉะ เพราะกระบวนการคั่วทำให้คาเฟอีนลดลงอย่างมาก รสชาติของโฮจิฉะจึงนุ่มนวลกว่า ไม่เฝื่อน และดื่มง่าย

  • มัทฉะ (Matcha) : คือชาเขียวที่ผ่านการบดอย่างละเอียดจนเป็นผง มีสีเขียวสดใส และมีรสชาติ"อุมามิ" ที่โดดเด่น ต้นชาจะถูกคลุมด้วยตาข่ายเพื่อป้องกันแสงแดดก่อนการเก็บเกี่ยว ทำให้มีคลอโรฟิลล์สูง แถมมีกลิ่นหอมแบบสาหร่าย หรือหญ้า และมีคาเฟอีนสูงกว่าปกติ มัทฉะจึงมีรสชาติซับซ้อนที่มีทั้งความหวาน และความขมเล็กน้อย

สรุปง่าย ๆ สำหรับคนที่สงสัยว่าโฮจิฉะกับมัทฉะต่างกันอย่างไร ก็คืออยู่ที่ “วิธีการแปรรูป” และ “รสชาติ” นั่นเอง โฮจิฉะจะโดดเด่นด้วยความหอมละมุนจากการคั่ว ดื่มง่าย ผ่อนคลายสบาย ๆ ส่วนมัทฉะจะเน้นความเข้มข้น สีสันสดใส และให้พลังงานจากคาเฟอีนมากกว่า ใครชอบรสละมุนก็เลือกโฮจิฉะ แต่ถ้าอยากได้ความสดชื่นและพลังงานแน่น ๆ มัทฉะก็ถือว่าตอบโจทย์

 

รวมสูตรสารพัดชาเขียวลาเต้

1. เมนูโฮจิฉะลาเต้

โฮจิฉะลาเต้ก็คือเมนูชาโฮจิฉะใส่นม ซึ่งจะได้ชาโฮจิฉะที่หอมกลิ่นคั่วและมีสีออกน้ำตาลแดง ตัวชาโฮจิฉะเองเป็นชาที่มีรสขมน้อย และมีคาเฟอีนน้อย จึงให้รสชาติที่ละมุนกว่าชาประเภทอื่น เมื่อผสมนมลงไปจึงได้เครื่องดื่มที่รสละมุน กลมกล่อม ดื่มง่ายและมีกลิ่นหอมของชา และกลิ่นคั่วอ่อน ๆ ด้วย ปัจจุบันโฮจิฉะเป็นที่นิยมอย่างมาก หลายคาเฟ่สร้างสรรค์เมนูโฮจิฉะออกมา โดยเฉพาะเมนูโฮจิฉะลาเต้ที่ให้รสชาติกลมกล่อม นุ่มนวล ดื่มง่าย และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว แล้วโฮจิฉะลาเต้รสชาติเป็นยังไง มีส่วนผสมอะไรบ้าง ทำยังไงถึงจะได้โฮจิฉะลาเต้แสนอร่อย ไปดูกันเลย

 

 

วิธีทำเมนูโฮจิฉะลาเต้

ส่วนผสมสำหรับ 1 ที่

  • ผงชาโฮจิฉะ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำร้อน 15 มล.
  • นมสดรสจืดแบบเย็น 150 มล. 

 

วิธีทำ

  1. ชงชาโฮจิฉะในน้ำร้อน และปรุงรสด้วยน้ำตาล
  2. คนผงชาและน้ำตาลให้ละลายเข้ากัน
  3. รอให้ชาหายร้อน แล้วผสมชาที่ชงเรียบร้อยแล้ว เข้ากับนมสด
  4. คนชากับนมให้เข้ากัน
  5. เสิร์ฟโฮจะฉะลาเต้ร้อนได้เลย
  6. หากต้องการดื่มแบบเย็นสามารถเพิ่มปริมาณความเข้มข้นของชาและน้ำตาลให้รสชาติจัดขึ้น แล้วเทลงบนน้ำแข็งได้เลย

 

วิธีทำเมนูโฮจิฉะแฟรปเป้

ส่วนผสม

  • ผงชาโฮจิฉะ 2-3 ช้อนชา
  • น้ำเชื่อม 50 มล.
  • นมข้นหวาน 70 มล.
  • นำ้แข็ง 1 แก้ว
  • วิปปิ้งครีมตามชอบ

 

วิธีทำ

  1. ปั่นนมสด นมข้นหวานและน้ำเชื่อมให้เข้ากัน
  2. ใส่ผงโฮจิฉะ แล้วปั่นต่อจนผงชาละลายหมด
  3. เทน้ำแข็งลงไปปั่นให้เนียน
  4. ใส่แก้วแล้วตกแต่งด้วยวิปปิ้งครีม

 

2. เมนูมัทฉะลาเต้เย็น

มัทฉะลาเต้ คือ เครื่องดื่มสุดคลาสสิกที่ผสมผสานความขมกลมกล่อมของผงมัทฉะเข้มข้นเข้ากับความหอมมันของนมสด ได้รสชาติที่ลงตัวและกลิ่นหอมชวนดื่ม กลายเป็นเมนูโปรดของใครหลาย ๆ คน สามารถทำดื่มเองได้ง่าย ๆ ที่บ้านในเวลาไม่ถึงนาที และปรับเปลี่ยนรสชาติได้หลากหลาย แต่ก็มีอีกหลาย ๆ คนที่เข้าใจผิดว่า มัทฉะลาเต้เย็น คือ กาแฟ + มัทฉะ ซึ่งต้องบอกว่าไม่ใช่ การที่มีคำว่าลาเต้ต่อท้าย แปลว่าเครื่องดื่มนั้นมีนมเป็นส่วนผสมนั่นเอง 

 

เมนูมัทฉะลาเต้เย็น

 

วิธีทำเมนูมัทฉะลาเต้เย็น

ส่วนผสม

  • ผงมัทฉะ 3 กรัม (~1.5 ช้อนชา)
  • น้ำอุ่น 40 ml.
  • นมสด 150 ml.
  • น้ำเชื่อม 10 ml. (~2 ช้อนชา)
  • น้ำแข็ง

 

วิธีทำ

  1. ร่อนผงมัทฉะลงในชามผสม เพื่อให้ผงชาละเอียดและไม่มีก้อน จากนั้นค่อยๆ เทน้ำร้อนลงไปเล็กน้อย แล้วใช้ชาเซนหรือเครื่องตีฟองนม ตีให้ผงชาละลายเข้ากับน้ำจนเกิดฟองสีเขียวสวยงาม พักไว้
  2. เทนมสดใส่แก้ว ตามด้วยน้ำเชื่อม คนให้เข้ากัน
  3. เติมน้ำแข็งประมาณครึ่งแก้ว ไม่ควรเติมจนเต็ม
  4. จากนั้นเทมัทฉะที่ตีไว้ลงบนนมเย็น ๆ ช้า ๆ เพื่อให้เกิดเป็นชั้นที่สวยงาม 


3.  เมนูมัทฉะส้มยูซุ

เมนูที่ผสมผสานความแตกต่างได้อย่างลงตัว ความเข้มข้นของมัทฉะมาเจอกับความเปรี้ยวอมหวานและกลิ่นหอมสดชื่นของส้มยูซุ ทำให้ได้เครื่องดื่มที่ให้ความรู้สึกสดใส มีชีวิตชีวา และช่วยคลายร้อนได้ดี เป็นเมนูที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับวันที่อากาศร้อน ๆ และต้องการความสดชื่น

 

เมนูมัทฉะส้มยูซุ

 

วิธีทำเมนูมัทฉะส้มยูซุ

ส่วนผสม

  • ผงมัทฉะ 3 กรัม (~1.5 ช้อนชา)
  • น้ำร้อน 30 ml.
  • ยูซุไซรัป 30 ml.
  • โซดา 100 ml.
  • น้ำแข็ง

วิธีทำ

  1. ร่อนผงมัทฉะลงในชามผสม จากนั้นค่อย ๆ เทน้ำร้อนลงไป พร้อมตีผงมัทฉะกับน้ำร้อนให้เข้ากัน จนเกิดฟองสีเขียว
  2. เทยูซุไซรัป และโซดาลงในแก้ว คนให้เข้ากัน
  3. เติมน้ำแข็งให้พอดี
  4. แล้วค่อย ๆ เทมัทฉะที่ตีไว้ลงไปด้านบน ให้เป็นเลเยอร์ที่สวยงาม 


4. เมนูโฮจิฉะบราวน์ชูการ์

กลิ่นหอมคั่วของโฮจิฉะ ผสานกับความหวานหอมของน้ำตาลทรายแดง หรือที่เราเรียกว่าบราวน์ชูการ์ ทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้น ใครที่ชอบชาที่มีกลิ่นหอมสโมคหน่อย ๆ และรสชาติที่หวานหอมจากน้ำตาล ต้องลองเมนูนี้ รับรองว่าติดใจตั้งแต่คำแรก

 

เมนูโฮจิฉะบราวน์ชูการ์

 

วิธีทำเมนูโฮจิฉะบราวน์ชูการ์

ส่วนผสม

  • ผงชาโฮจิฉะ 2-3 ช้อนชา
  • น้ำร้อน 30 ml.
  • บราวน์ชูการ์ไซรัป 30 ml.
  • นมสด 150 ml.
  • น้ำแข็ง

วิธีทำ

  • ร่อนผงโฮจิฉะลงในชามผสม จากนั้นค่อย ๆ เทน้ำร้อนลงไป พร้อมตีผงโฮจิฉะกับน้ำร้อนให้เข้ากัน
  • เทบราวน์ชูการ์ไซรัปลงในแก้ว แล้วใช้ไซรัปบีบแต่งรอบ ๆ ขอบแก้ว เพิ่มความสวยงาม
  • ใส่น้ำแข็งพอดี ต่อด้วยเทนมสดลงไป
  • แล้วค่อย ๆ เทโฮจิฉะที่ตีไว้ลงไปด้านบน


5. เมนูโฮจิฉะสตรอว์เบอร์รี

เมนูที่ให้รสชาติที่คาดไม่ถึง ความหอมนุ่มและกลิ่นคั่วของโฮจิฉะจะเข้ากันได้ดี กับความเปรี้ยวอมหวาน และสดชื่นของสตรอว์เบอร์รี ทำให้ได้เครื่องดื่มที่มีรสชาติซับซ้อนและดื่มง่าย ถือเป็นเมนูที่อร่อย แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร

 

เมนูโฮจิฉะสตรอว์เบอร์รี

 

วิธีทำเมนูโฮจิฉะสตรอว์เบอร์รี

ส่วนผสม

  • ผงชาโฮจิฉะ 2-3 ช้อนชา
  • น้ำร้อน 30 ml.
  • ซอสสตรอว์เบอร์รี (หรือสตรอว์เบอร์รีบด) 30 ml.
  • นมสด 150 ml.
  • น้ำแข็ง

วิธีทำ

  • ร่อนผงโฮจิฉะลงในชามผสม จากนั้นค่อย ๆ เทน้ำร้อนลงไป พร้อมตีผงโฮจิฉะกับน้ำร้อนให้เข้ากัน
  • เทซอสสตรอว์เบอร์รีลงที่ก้นแก้ว ตามด้วยน้ำแข็งและนมสด
  • แล้วค่อย ๆ เทโฮจิฉะที่ตีไว้ลงไปด้านบน

 

ชงชาเขียวได้หอมอร่อย กลมกล่อมกว่าเดิมด้วย BN-3 Milk Touch

@benothailand จะชาเขียว ชาไทย หรือกาเเฟก็สามารถใช้กับเครื่องได้ BN3 Milk Touch มาพร้อมปุ่มกดแบบสัมผัสด้านบน ใช้งานง่ายขึ้นกว่าเก่าแน่นนอนค่า พร้อมรับประกันตัวเครื่อง 1 ปี กดสั่งได้เลยค่า 👇🏻✨#benothailand #coffeelover #cafe #coffee #สายอุปกรณ์ #สายกาแฟ #โฮมคาเฟ้ #เครื่องดื่ม #อุปรกณ์กาแฟ #เข็มเกลี่ยผงกาแฟ #homecafe #คลังเครื่องดื่ม #bn3milk #bn3milktouch #ชาเขียว ♬ atyourbest - eli 🙏🏾

 

ถึงแม้ว่าโฮจิฉะจะเป็นชา ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน แต่โฮจิฉะคือชาที่มีปริมาณคาเฟอีนน้อยกว่าชาประเภทอื่น จึงทำให้ดื่มได้ทั้งวัน แถมยังช่วยเพิ่มความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าในช่วงเย็น โดยไม่ต้องพึ่งพากาแฟแล้วกังวลว่าจะนอนไม่หลับอีกด้วย  สำหรับผู้ที่หลงใหลในรสชาติของทั้งกาแฟและชาเขียว BN-3 Milk Touch คือตอบโจทย์ เพราะเขาชงได้ทั้งใบชา กาแฟบด หรือแคปซูลกาแฟ ตีฟองนมได้หนานุ่มแบบฟินสุด ๆ ทำให้ดื่มด่ำกับเมนูแสนอร่อยได้เลิศกว่าเดิม ช่วงนี้โปรแรง รับส่วนลดเต็ม ๆ 200 บาท เมื่อใช้โค้ด BENOA200 ที่ Shopee Thailand

 

เครื่องชงชา

 



More articles