อุปกรณ์ชงกาแฟ

รวม 7 อุปกรณ์ชงกาแฟที่ทุกคาเฟ่ต้องมี! พร้อมเคล็ดลับการเลือกซื้อ

Dec 30, 2024Beno smartliving

‘อุปกรณ์ชงกาแฟ’ เป็นหัวใจสำคัญของร้านกาแฟทุกแห่ง เรียกได้ว่าการเลือกใช้อุปกรณ์ชงกาแฟที่เหมาะสม ก็เปรียบเสมือนการเลือกใช้วัตถุดิบชั้นดีในการปรุงอาหารชั้นเลิศ เพราะมันจะช่วยดึงเอาศักยภาพของเมล็ดกาแฟออกมาได้อย่างเต็มที่ ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม หอมกรุ่น และน่าประทับใจ จนทำให้ลูกค้าต้องกลับมาลิ้มลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใครที่อยากเปิดร้านกาแฟ หรือ Home Cafe เล็ก ๆ แต่ไม่รู้ว่าอุปกรณ์ชงกาแฟ มีอะไรบ้าง? ต้องห้ามพลาดบทความนี้เลย! พร้อมแปะเคล็ดลับในการเลือกซื้ออุปกรณ์ชงกาแฟแบบมืออาชีพ


เคล็ดลับในการเลือกซื้ออุปกรณ์ชงกาแฟ

 

เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ

 

การเลือกซื้ออุปกรณ์ชงกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นสำหรับร้านคาเฟ่หรือทำเองที่บ้าน ก็ถือเป็นการลงทุนที่สำคัญ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะส่งผลโดยตรงต่อรสชาติและคุณภาพของกาแฟที่ได้ ดังนั้นการเลือกให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งานจึงเป็นสิ่งจำเป็น มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ควรพิจารณา

1. ตอบโจทย์การใช้งาน

ก่อนที่จะเลือกซื้ออุปกรณ์ชงกาแฟ ต้องดูก่อนว่าจะวัตถุประสงค์การใช้งานเป็นอย่างไร หากเน้นความสะดวกสบายในการใช้งานที่บ้าน อาจเลือกเครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติ หรือแบบ Manual ที่ใช้งานง่าย และมีขนาดกระทัดรัด เพื่อประหยัดพื้นที่ แต่หากเปิดเป็นธุรกิจร้านคาเฟ่ ควรพิจารณาเครื่องชงกาแฟที่สามารถชงกาแฟได้ปริมาณมาก มีความทนทานสูง และสามารถปรับแต่งรสชาติได้หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

2. พื้นที่ในการจัดวาง

เพราะอุปกรณ์แต่ละชนิดจะมีขนาดและรูปร่างที่แตกต่างกัน การเลือกอุปกรณ์ที่ใหญ่เกินไปอาจทำให้พื้นที่ทำงานแคบลง หรือเลือกอุปกรณ์ที่เล็กเกินไปอาจไม่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อควรวัดพื้นที่ที่จะวางอุปกรณ์ให้ชัดเจน เพื่อเลือกซื้ออุปกรณ์ที่มีขนาดพอดีกับพื้นที่ และจัดวางได้อย่างลงตัว ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

3. ความทนทานและอายุการใช้งาน

การเลือกอุปกรณ์ชงกาแฟที่ทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนาน จะช่วยประหยัดเงินในระยะยาวได้ เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้มักถูกใช้งานบ่อยและสัมผัสกับความร้อนและความชื้นอยู่เสมอ หากเลือกอุปกรณ์ที่ไม่ทนทาน อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงหรือเปลี่ยนใหม่บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นการเสียเงินที่ซ้ำซ้อน ลงทุนดี ๆ ครั้งเดียว แต่ได้ของที่มีคุณภาพก็ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว

4. ความสะดวกในการใช้งานและบำรุงรักษา

เลือกอุปกรณ์ชงกาแฟที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย เช่น เครื่องชงกาแฟที่มีฟังก์ชันทำความสะอาดอัตโนมัติ  หรือเครื่องบดที่สามารถถอดทำความสะอาดได้ อีกทั้งการเลือกเครื่องที่มีปุ่มกดที่เข้าใจง่าย ชิ้นส่วนที่ถอดประกอบได้สะดวก และมีคู่มือการใช้งานที่ชัดเจน จะช่วยให้ผู้ใช้งานทำงานได้อย่างคล่องแคล่ว และสามารถลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากความเข้าใจผิดได้อีกด้วย

5. ฟังก์ชันที่ตอบโจทย์

ทำไมต้องเน้นฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ เพราะฟังก์ชันเหล่านี้จะส่งผลโดยตรงต่อรสชาติและคุณภาพของกาแฟที่ได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเครื่องบดกาแฟที่ปรับระดับความละเอียดได้หลากหลาย เพื่อให้ได้รสชาติกาแฟที่แตกต่าง หรือเลือกเครื่องชงเอสเปรสโซ่ที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ เพื่อให้ได้ช็อตเอสเปรสโซ่ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งหากฟังก์ชันไม่ตอบโจทย์ อาจส่งผลให้กาแฟไม่อร่อยเท่าที่ควร และแน่นอนว่าจะกระทบต่อความพึงพอใจของลูกค้าและธุรกิจในระยะยาวอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นหากคิดจะเริ่มแล้ว ก็ต้องเลือกของดีไปเลย!

6. งบประมาณและความคุ้มค่า

การกำหนดงบประมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณเลือกซื้ออุปกรณ์ชงกาแฟที่ตรงกับความต้องการและความสามารถในการจ่ายได้อย่างลงตัว เพราะการลงทุนในเครื่องที่แพงเกินไปอาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น ในขณะที่เครื่องราคาถูกเกินไปอาจไม่มีคุณภาพหรือทนทานพอสำหรับการใช้งานหนัก ฉะนั้นควรเลือกเครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณเป็นหลักในราคาที่รับไหว แต่ก็ต้องคุ้มค่ากับคุณภาพที่ได้มาด้วยเช่นกัน

7. อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง

การอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ เพราะรีวิวเหล่านี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกที่จะบอกคุณว่า อุปกรณ์ชงกาแฟที่คุณกำลังจะซื้ออยู่นั้นมีประสิทธิภาพการทำงานจริงอย่างไร ความทนทาน รวมไปถึงปัญหาที่พบเจอมีอะไรบ้าง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างมั่นใจมากขึ้น


อุปกรณ์หลักในการชงกาแฟ มีอะไรบ้าง?

 

เข็มเกลี่ยผงกาแฟ

 

1. เครื่องชงกาแฟ (Coffee Machine)

เครื่องชงกาแฟเป็นอุปกรณ์หลักที่ขาดไม่ได้ในร้านกาแฟ มีหน้าที่หลักในการสกัดกาแฟจากเมล็ดคั่วให้ได้รสชาติที่เข้มข้น หอมกรุ่น และเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาใช้บริการซ้ำอีกครั้ง หลาย ๆ ธุรกิจร้านกาแฟเลือกใช้เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ เนื่องจากความสะดวกสบายในการใช้งาน ทำให้ประหยัดเวลาและแรงงานของบาริสต้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติยังสามารถควบคุมคุณภาพของกาแฟได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้ได้กาแฟรสชาติอร่อยเหมือนกันทุกแก้ว

2. เครื่องบดกาแฟ (Coffee Grinder)

เครื่องบดกาแฟ เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของอุปกรณ์ชงกาแฟ เนื่องจากมีหน้าที่หลักในการบดเมล็ดกาแฟให้มีขนาดและความสม่ำเสมอตามที่ต้องการก่อนนำไปชง ซึ่งขนาดของผงกาแฟที่ได้จะส่งผลโดยตรงต่อรสชาติและกลิ่นของกาแฟที่ได้ออกมา หากบดละเอียดเกินไป กาแฟอาจจะมีรสขมและขมขื่น แต่ถ้าบดหยาบเกินไป กาแฟก็จะออกมากลิ่นอ่อนและรสชาติจืดชืด ดังนั้น การมีเครื่องบดกาแฟที่สามารถปรับระดับความละเอียดได้อย่างแม่นยำ 

3. พอร์ตฟิลเตอร์ (Portafilter)

เมื่อเราบดเมล็ดกาแฟให้ละเอียดแล้ว ก็จะนำไปใส่ในพอร์ตฟิลเตอร์ จากนั้นจึงนำไปติดตั้งกับหัวชงของเครื่องเอสเปรสโซ่เพื่อทำการสกัดกาแฟ เมื่อน้ำร้อนแรงดันสูงพุ่งผ่านกาแฟบดในพอร์ตฟิลเตอร์ ก็จะได้เอสเปรสโซ่เข้มข้นออกมา

4. แทมเปอร์ (Tamper)

แทมเปอร์ หรือที่กดกาแฟ เป็นอุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ แต่มีบทบาทสำคัญในการชงกาแฟเอสเปรสโซ่ให้อร่อยเข้มข้น โดยหน้าที่หลักของแทมเปอร์คือการกดกาแฟบดให้แน่นและสม่ำเสมอในพอร์ตฟิลเตอร์ ก่อนที่จะนำไปสกัดด้วยน้ำร้อน หากแทมป์ไม่แน่นพอ น้ำร้อนอาจไหลผ่านเร็วจนเกินไป ทำให้กาแฟขมและขมขื่น หรือหากแทมป์แน่นเกินไป น้ำร้อนอาจไม่สามารถผ่านได้ ทำให้กาแฟจืดชืด

5. เครื่องตีฟองนม  (Milk Frother)

เครื่องตีฟองนม เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการตีฟองนมให้มีความเนียนนุ่มและฟู ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ชงกาแฟที่สำคัญสำหรับร้านกาแฟที่ต้องการเสิร์ฟเมนูกาแฟหลากหลาย โดยเฉพาะเมนูที่มีส่วนผสมของนม เช่น ลาเต้ คาปูชิโน่ หรือคาราเมลมัคคิอาโต้ เป็นต้น

6. อุปกรณ์ตวงวัด

อุปกรณ์ตวงวัดเป็นสิ่งสำคัญในการชงกาแฟ เพราะจะช่วยให้เราควบคุมปริมาณกาแฟบด น้ำ และส่วนผสมอื่น ๆ ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อรสชาติของกาแฟที่ได้ออกมา อุปกรณ์ตวงวัดที่นิยมใช้กัน ได้แก่ ตาชั่งดิจิทัล ถ้วยตวง และช้อนตวง เป็นต้น

7. อุปกรณ์ทำความสะอาด

การทำความสะอาดอุปกรณ์ชงกาแฟเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ และป้องกันการปนเปื้อนของกาแฟ ทำให้ได้รสชาติกาแฟที่สดใหม่เสมอ อุปกรณ์ทำความสะอาดที่ควรมี ได้แก่ แปรงทำความสะอาดพอร์ตฟิลเตอร์ แปรงทำความสะอาดหัวชง และที่เคาะกากกาแฟ เป็นต้น


ทำไมต้องมีอุปกรณ์ชงกาแฟเหล่านี้ในร้านกาแฟ? 

  • ควบคุมคุณภาพ: อุปกรณ์ชงกาแฟที่ดีจะช่วยให้บาริสต้าสามารถควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ในการชงกาแฟได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิของน้ำ แรงดันในการสกัด หรือปริมาณกาแฟที่ใช้ ทำให้ได้รสชาติของกาแฟที่สม่ำเสมอและเป็นเอกลักษณ์ของร้าน
  • ความหลากหลายของเมนู: อุปกรณ์ชงกาแฟที่ทันสมัยสามารถสร้างสรรค์เมนูกาแฟได้หลากหลาย ตั้งแต่เอสเปรสโซ่เข้มข้นไปจนถึงลาเต้อาร์ตสวย ๆ ช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย
  • ประสิทธิภาพในการทำงาน: อุปกรณ์ชงกาแฟช่วยให้บาริสต้าสามารถชงกาแฟได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ลดเวลาในการรอของลูกค้า
  • ภาพลักษณ์ของร้าน: อุปกรณ์ชงกาแฟที่มีดีไซน์สวยงามและทันสมัย จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับร้านกาแฟ และดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ

 

เลือกซื้ออุปกรณ์ชงกาแฟ จากแบรนด์คุณภาพ BENO จบครบในที่เดียว

สำหรับบาริสต้ามืออาชีพและผู้ที่หลงใหลในกาแฟรสเลิศ BENO เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่รุ่น PRO-FLEX บด ชง ตีฟองในเครื่องเดียว คือคู่หูที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิ PID ที่แม่นยำ ช่วยให้รสชาติกาแฟคงที่ทุกครั้ง นอกจากนี้ ฟังก์ชัน Pre-infusion ยังช่วยดึงรสชาติที่ซับซ้อนของกาแฟออกมาได้อย่างเต็มที่ ทำให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร และด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและวัสดุคุณภาพสูง BENO PRO-FLEX ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือสำหรับชงกาแฟ แต่ยังเป็นของตกแต่งที่สวยงามในครัวของคุณอีกด้วย ช้อปอุปกรณ์ชงกาแฟชิ้นใดก็ได้ ของแบรนด์คุณภาพ BENO วันนี้รับส่วนลดสุดคุ้มเพิ่ม 200 บาท เมื่อใช้โค้ด BENOA200 ที่ Shopee Thailand รีบเลย!

อุปกรณ์ชงกาแฟ Beno

 



More articles