การเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยกาแฟร้อนเป็น Morning Routine ของใครหลาย ๆ คนที่ขาดไม่ได้เลย เพราะการดื่มกาแฟร้อนนอกจากจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเหมือนได้พักสมองไปในตัวแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายอบอุ่น และกระตุ้นระบบเผาผลาญได้ดีอีกด้วย เรียกได้ว่ากลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟนี่แหละ ที่เป็นเหมือนกระดิ่งหรือสัญญาณเริ่มต้นวันใหม่ได้ดีสุด ๆ แต่นอกจากเมล็ดกาแฟ วิธีการทำ ที่มีผลต่อความอร่อยของกาแฟแล้ว หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อรสชาติของกาแฟโดยตรง นั่นก็คือ "แก้วกาแฟร้อน” เพราะเป็นองค์ประกอบสุดท้ายที่จะทำให้กาแฟแก้วนั้นของคุณสมบูรณ์แบบ ไปดูกันต่อเลยว่าทำไมต้องเลือกแก้วกาแฟร้อน แล้วแก้วกาแฟร้อนมีกี่แบบ เลือกใช้ยังไงให้ถูกใจและไม่เสียรสชาติ
ทำไมต้องเลือกแก้วกาแฟร้อน ให้เหมาะกับประเภทกาแฟ
การเลือกแก้วกาแฟร้อนให้เหมาะกับประเภทกาแฟนั้นสำคัญมาก เพราะเป็นเหมือนการใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เป็นความเล็กน้อยที่ส่งผลต่อรสชาติและประสบการณ์การดื่มกาแฟของผู้ดื่มโดยตรง และนี่คือเหตุผลทีเราควรเลือกแก้วกาแฟร้อนให้เหมาะสม
- รักษาอุณหภูมิ: สำหรับคอกาแฟร้อน การรักษาอุณหภูมิของกาแฟให้คงที่คือสิ่งสำคัญมาก เพราะอุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยให้เราได้สัมผัสรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟได้อย่างเต็มที่ แต่หากเลือกแก้วกาแฟร้อนที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้กาแฟเย็นเร็ว จนรสชาติเพี้ยนตามกันไป หรืออีกกรณีคือความร้อนที่สูงเกินจะทำให้ร้อนจนจับแก้วไม่ได้ นอกจากจะทำให้เสียอรรถรสในการดื่มแล้ว ยังมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย
- รักษารสชาติ: การเลือกแก้วกาแฟร้อนที่เหมาะสม จะช่วยรักษารสชาติที่แท้จริงของกาแฟแต่ละชนิด เนื่องจากแก้วกาแฟบางชนิดอาจทำจากวัสดุที่มีกลิ่นเฉพาะตัว เช่น พลาสติกบางชนิดอาจมีกลิ่นเคมี หรือแม้กระทั่งกลิ่นจากแก้วกระดาษที่เป็นปัญหาที่หลายคนพบเจอ แก้วเมื่อกาแฟร้อนสัมผัสกับวัสดุเหล่านี้ กลิ่นของวัสดุก็อาจจะละลายออกมาผสมกับกลิ่นกาแฟ ทำให้รสชาติโดยรวมเปลี่ยนไป
- เพิ่มมูลค่าให้กับกาแฟ: การเลือกแก้วกาแฟร้อนให้เหมาะสมกับประเภทกาแฟ ก็เหมือนกับการรังสรรค์งานศิลปะชิ้นเอก ลองนึกภาพดูว่าการได้จิบลาเต้อาร์ตร้อน ๆ จากแก้วเซรามิกสีขาว จะทำให้เราเพลิดเพลินไปกับลวดลายที่สวยงามบนฟองนมได้อย่างเต็มอิ่ม และสัมผัสรสชาติที่กลมกล่อมได้อย่างลงตัว การจับคู่ที่ลงตัวนี่เองก็เป็นเหมือนการเพิ่มมูลค่าให้กับกาแฟแก้วนั้น รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้แหละที่ทำให้การดื่มกาแฟกลายเป็นเรื่องพิเศษ
- เสริมสร้างภาพลักษณ์และสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ: ความใส่ใจในรายละเอียดของผู้ประกอบการ ด้วยการเลือกแก้วที่เหมาะสมแสดงให้เห็นว่าทางร้านให้ความสำคัญกับรายละเอียด ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพของกาแฟที่เสิร์ฟ และยังเป็นการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้า และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของธุรกิจให้ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้นอีกด้วย
แก้วกาแฟร้อน มีกี่แบบ?
แก้วกาแฟแต่ละแบบก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ทั้งเรื่องของวัสดุ ขนาด และรูปทรง ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีผลต่อการดึงรสชาติของกาแฟออกมา วันนี้ไปดูความลับการเลือกใช้แก้วกาแฟร้อนที่ร้านกาแฟหลาย ๆ ที่ไม่เคยบอกกัน
1. แก้วเอสเปรสโซ่ (Espresso Cup)
เอสเปรสโซ่ แท้จริงแล้วมาจากคำในภาษาอิตาเลียนที่แปลว่า "Pressed-Out" หรือ กด/อัด/บดจนได้ผลผลิตออกมา ซึ่งสื่อถึงวิธีการชงที่ต้องใช้แรงดันน้ำร้อนสูงดันผ่านกาแฟบดละเอียดอย่างรวดเร็ว ทำให้ได้กาแฟดำเข้มข้นออกมาหนึ่งช็อต พร้อมครีม่าฟองสีน้ำตาลทองที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเกิดจากการผสมผสานของของเหลวและน้ำมันหอมระเหยจากกาแฟ ทำให้เกิดฟองละเอียดที่เป็นเอกลักษณ์ของเอสเปรสโซ่ โดยปกติแล้วเอสเปรสโซ่จะนิยมดื่มร้อน เริ่มจากการสูดกลิ่นหอมของเอสเปรสโซ่ให้เต็มปอด เพื่อสัมผัสกลิ่นหอมที่หลากหลายที่ซ่อนอยู่ในกาแฟ แล้วจิบ ๆ เพื่อให้ลิ้นได้สัมผัสรสชาติที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละอุณหภูมิ จะสังเกตเห็นเลยว่ารสชาติตั้งแต่ตอนที่กาแฟยังร้อนอยู่ จนถึงตอนที่เย็นลง จะมีความแตกต่างกัน เพราะแบบนี้แก้วกาแฟร้อนจึงมีความสำคัญอย่างมากต่อการดื่มด่ำรสชาติแท้จริงของกาแฟเอสเปรสโซ่
ขนาดแก้ว: 2-3 ออนซ์ (เหมาะกับกาแฟ 1-2 ช็อต)
ความจุ: ประมาณ 30-60 ml.
เหมาะกับกาแฟแบบไหน: เอสเปรสโซ่ร้อน
2. แก้วคาปูชิโน่ / ลาเต้ (Cappuccino / Latte Cup)
แก้วประเภทนี้ ควรคำนึงถึงส่วนผสมอย่างนมและฟองนมเป็นหลัก เพราะโจทย์คือต้องหาแก้วกาแฟร้อนที่ช่วยรักษาอุณหภูมิและคงความสวยงามของเลเยอร์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยทั่วไปจะใหญ่กว่าแก้วเอสเปรสโซ่ เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับฟองนมและลวดลายลาเต้อาร์ต มักทำจากเซรามิกหรือแก้วหนา เพื่อรักษาอุณหภูมิของกาแฟและนมให้อยู่ได้นานขึ้น พร้อมหูจับที่ออกแบบมาอย่างดีจะช่วยให้การถือแก้วทำได้สะดวกและปลอดภัย กาแฟที่ผสมนมแบบนี้จะเต็มไปด้วยความนุ่ม ความหนาแน่น และความละเอียด การคนกาแฟจะทำให้ฟองนมแตกตัวและรสชาติเปลี่ยนไป แต่การจิบจากด้านข้างจะช่วยให้ได้ทั้งรสชาติกาแฟ นมนุ่ม ๆ และฟองนมในคำเดียว
ขนาดแก้ว: 6-8 ออนซ์
ความจุ: ไม่เกิน 230 ml.
เหมาะกับกาแฟแบบไหน: คาปูชิโน่ร้อน / ลาเต้ร้อน / มัคคิอาโต้ร้อน / แฟลตไวท์ / มอคค่าร้อน
3. แก้วอเมริกาโน่ (Americano Cup)
อเมริกาโน่ เป็นกาแฟที่ได้จากการเติมน้ำร้อนลงในเอสเปรสโซ่ จึงมีรสชาติเข้มข้นของกาแฟแท้ ๆ ตรงไปตรงมา เหมาะสำหรับคนที่ชอบรสชาติกาแฟแบบดั้งเดิม เน้นรสชาติเข้มข้นของกาแฟ ได้สัมผัสความกลมกล่อมของรสขมและเปรี้ยวที่ลงตัวระหว่างจิบเบา ๆ นอกจากนี้ รูปทรงของแก้วกาแฟประเภทนี้มักมีรูปทรงที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน อาจเป็นทรงกระบอกหรือทรงกรวย เพื่อช่วยให้กาแฟเย็นช้าลง ด้วยความที่การดื่มกาแฟอเมริกาโน่มีความหลากหลายมาก บางคนชอบเข้ม บางคนชอบอ่อน ๆ แก้วกาแฟร้อนจึงมีความหลากหลายตามกันไป แต่แบบที่นิยมใช้กันคือ 8-12 ออนซ์ โดยแนะนำให้ใส่น้ำร้อนก่อน 100-120 ml หรือไม่เกิน 4 ออนซ์ ตามด้วยกาแฟเข้มข้น 1 ช็อต ก็พร้อมดื่มด่ำกับอเมริกาโน่แก้วโปรดได้เลย
ขนาดแก้ว: 8-12 ออนซ์
ความจุ: ไม่เกิน 360 ml.
เหมาะกับกาแฟแบบไหน: อเมริกาโน่ร้อน
เทคนิคซื้อแก้วกาแฟร้อน ให้ถูกใจ ไม่เสียรสชาติ
1. วัสดุของแก้วกาแฟร้อน
เลือกแก้วที่ทำจากวัสดุที่รักษาความร้อนได้ดี เช่น แก้วเซรามิกหรือสเตนเลส เป็นวัสดุยอดนิยมในการทำแก้วกาแฟ เก็บความร้อนได้ดี ช่วยรักษารสชาติของกาแฟได้อย่างยาวนาน ในขณะเดียวกับวัสดุประเภทแก้วก็ตอบโจทย์ เพราะความใสของแก้วจะทำให้เห็นเลเยอร์ของกาแฟได้ชัดเจน แต่ต้องระวังเรื่องความร้อนที่อาจทำให้ร้อนมือขณะจับด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นวัสดุที่ควรหลีกเลี่ยง คือ พลาสติก เพราะความร้อนอาจทำให้สารเคมีในพลาสติกหลุดออกมาปนเปื้อนในกาแฟ ทำให้รสชาติของกาแฟเปลี่ยนไปและอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ดื่มได้
2. เลือกตามขนาดและรูปทรง
การเลือกขนาดแก้วให้เหมาะสมกับปริมาณของกาแฟ จะทำให้สามารถบาลานซ์รสชาติของกาแฟและส่วนผสมได้อย่างลงตัว นอกจากขนาดแล้ว รูปทรงของแก้วก็มีส่วนสำคัญ แก้วกาแฟทรงสูงจะช่วยให้กลิ่นหอมของกาแฟโชยออกมาได้เต็มที่ ทำให้ได้สัมผัสประสบการณ์การดื่มกาแฟที่สมบูรณ์แบบ ในขณะที่แก้วทรงเตี้ยจะช่วยรักษาอุณหภูมิของกาแฟได้ดีกว่า เหมาะสำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟร้อน ๆ นาน ๆ ดังนั้น การเลือกขนาดและรูปทรงของแก้วกาแฟจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ได้อรรถรสในการดื่มกาแฟมากที่สุด
3. สีของแก้วกาแฟร้อน
สีของแก้วกาแฟร้อน อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็มีผลต่อประสบการณ์การดื่มกาแฟได้อย่างน่าสนใจ อีกทั้งยังสอดคล้องกับหลักการทางจิตวิทยาที่เรียกว่า Sensory Perception หรือการรับรู้ทางประสาทสัมผัส ซึ่งสีสันเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการรับรู้ของเรา
- สีขาว: มักทำให้รู้สึกว่ากาแฟมีความเข้มข้น รสชาติหนักแน่น และมีความหวานน้อยกว่าสีอื่น ๆ
- สีดำ: ทำให้รู้สึกว่ากาแฟมีความขมและเข้มข้นมากขึ้น
- สีใส: ช่วยให้เห็นสีของกาแฟได้ชัดเจน ทำให้รู้สึกถึงความบริสุทธิ์ของกาแฟ และอาจทำให้รู้สึกว่ากาแฟมีรสชาติที่สดชื่นกว่า
4. คุณสมบัติอื่น ๆ
หรือแม้กระทั่งคุณสมบัติอื่น ๆ ยกตัวอย่าง ถ้าคุณต้องการดื่มกาแฟให้เย็นเร็วขึ้นและสัมผัสฟองนมได้เต็มที่ แก้วที่มีปากกว้างก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าต้องการรักษาความร้อนของกาแฟเอาไว้ ควรเลือกแก้วที่มีปากแคบหรือมีฝาปิด ส่วนความสูงของแก้วนั้น แก้วสูงจะทำให้กาแฟเย็นเร็วกว่าแก้วเตี้ย เนื่องจากมีพื้นที่ผิวสัมผัสกับอากาศมากกว่า นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่ากาแฟร้อนทุกแบบจะมีหูจับ เพราะช่วยป้องกันความร้อน และช่วยให้สะดวกสบายในการยกดื่ม
แค่แก้วไม่พอ! ค้นพบรสชาติใหม่ ๆ จากอุปกรณ์ชงกาแฟครบชุด
นอกจากจะมีแก้วกาแฟร้อนที่เหมาะสมแล้ว การเลือกใช้อุปกรณ์ชงกาแฟอื่น ๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน การจะดึงรสชาติกาแฟออกมาให้สมบูรณ์แบบนั้น ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ลองนึกภาพว่าถ้าเราใช้กาน้ำร้อนทั่วไปแทนกาต้มน้ำสำหรับชงกาแฟโดยเฉพาะ อุณหภูมิและความเสถียรของน้ำก็จะส่งผลต่อรสชาติของกาแฟได้เช่นกัน ดังนั้น การมีอุปกรณ์ชงกาแฟครบชุด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบดกาแฟ เครื่องชงกาแฟ เคเกอร์ และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ จะช่วยให้เราควบคุมทุกขั้นตอนของการชงกาแฟได้อย่างแม่นยำ และได้สัมผัสกับรสชาติที่แท้จริงของกาแฟแต่ละแก้วได้อย่างเต็มที่ เพราะเรื่องรสชาติกาแฟเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่คุณสามารถควบคุมทุกขั้นตอนของการชงกาแฟได้อย่างมืออาชีพ ด้วยเครื่องชงกาแฟ จาก Beno เพื่อให้ได้รสชาติกาแฟที่กลมกล่อม หอมละมุน และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว Beno มีทุกอย่างที่คุณต้องการ! ไม่ต้องหาซื้อหลายร้านให้ยุ่งยาก
เอาใจคอกาแฟตัวจริง! เลือกช้อปอุปกรณ์ชงกาแฟ คุณภาพดี ในราคาพิเศษกว่าใคร รับส่วนลดสุดคุ้ม! 200 บาท ใส่โค้ด BENOA200 ที่ Shopee Thailand เพราะ Beno มีทุกอย่างที่คุณต้องการ ตั้งแต่เครื่องชงกาแฟ เครื่องบดกาแฟ และอุปกรณ์เสริมอีกมากมาย ครบจบที่เดียว!