เจ้าของร้านกาแฟเล็ก ๆ ถือแก้วแบบ takeaway

อยากเปิดร้านขายน้ำเล็ก ๆ เริ่มยังไงดี? สำหรับคนอยากมีธุรกิจเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง

May 30, 2025Beno smartliving

ความฝันที่อยากเปิดร้านขายน้ำเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ หรือร้านน้ำชาต่าง ๆ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยความต้องการเครื่องดื่มที่หลากหลาย และพฤติกรรมผู้บริโภคที่มองหาที่สำหรับพักผ่อน ทำงาน หรือพบปะสังสรรค์ ทำให้ธุรกิจนี้ดูน่าสนใจ และเข้าถึงได้ง่ายกับผู้ที่เริ่มต้นอยากทำธุรกิจเล็ก ๆ แต่การจะก้าวเข้าสู่การทำธุรกิจ ไม่ใช่แค่การมีเงินลงทุน หรือแพชชั่นเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ ตั้งแต่เรื่องเงินลงทุน ไปจนถึงการบริหารจัดการร้านให้มีประสิทธิภาพ 

ในบทความนี้ เราจะพาคุณเจาะลึกทุกประเด็นสำคัญที่ควรรู้ก่อนเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ พร้อมคำตอบ  "เปิดคาเฟ่ ลงทุนเท่าไหร่" และ "เปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ ต้องมีอะไรบ้าง" แบบเข้าใจง่าย เพื่อให้คุณพร้อมสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจในฝัน

 

เจาะลึกประเภทร้านน้ำที่ใช่! สำหรับผู้ที่อยากเปิดร้านขายน้ำเล็ก ๆ

 

บาริสต้าผู้หญิง

 

  1. แบบ Kiosk (คีออสก์) / Booth (บูธ)

ร้านขนาดเล็กกะทัดรัด เน้นการขายแบบ Takeaway อาจจะเป็นเคาน์เตอร์บาร์เล็ก ๆ ทำเลที่นิยมมักจะอยู่หน้าอาคารสำนักงาน ในห้างสรรพสินค้า หรือริมฟุตบาทที่มีคนพลุกพล่าน ใช้เงินลงทุนน้อยกว่าร้านแบบมีที่นั่ง ไม่ต้องดูแลพื้นที่มากนัก เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบจำกัด

  1. แบบ Grab & Go

ลักษณะคล้าย Kiosk แต่ส่วนใหญ่มักมีพื้นที่ภายในอาคารเล็ก ๆ ที่เป็นของตัวเอง อาจจะมีบาร์ให้นั่งได้ 1-2 ที่นั่ง เน้นความรวดเร็วในการสั่ง และรับเครื่องดื่ม ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองได้เป็นอย่างดี 

  1. แบบมีที่นั่ง (Mini Cafe / Small Cafe)

ร้านที่มีพื้นที่เล็ก ๆ แต่มีที่นั่งให้ลูกค้าได้นั่งพักผ่อนอาจจะ 2-5 โต๊ะ เน้นบรรยากาศที่อบอุ่น เป็นกันเอง และสามารถทำได้หลากหลายเมนู ขนมเบเกอรี่ หรืออาหารว่าง ใช้เงินลงทุนสูงขึ้นเช่น ค่าเช่า, ค่าตกแต่ง, ค่าอุปกรณ์ และอาจมีค่าจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น 

  1. แบบ Specialty Coffee

ร้านกาแฟขนาดเล็กที่เน้นคุณภาพของเมล็ดกาแฟเป็นหลัก มีการคัดสรรเมล็ดกาแฟพิเศษจากแหล่งต่าง ๆ มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการชงกาแฟเป็นอย่างดี อาจเน้นวิธีการชงแบบ Slow Bar การเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ แบบนี้จะมีกลุ่มเป้าหมายสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดื่มด่ำ กับรสชาติกาแฟที่มีเอกลักษณ์ อีกทั้งต้นทุนวัตุดิบสูงเนื่องจากกาแฟ Specialty มีราคาสูงกว่า แต่ก็สามารถสร้างมูลค่าได้เพราะเน้นคุณภาพ และประสบการณ์

 

เปิดคาเฟ่ ลงทุนเท่าไหร่? ไม่ให้บานปลาย

 

เจ้าของร้านคำนวณค่าจ่ายใช้ในการเปิดคาเฟ่ ลงทุนเท่าไหร่

 

เงินลงทุนเริ่มต้นสำหรับเปิดร้านขายน้ำเล็ก ๆ หรือร้านกาแฟเล็ก ๆ จะขึ้นอยู่กับรูปแบบร้านและขนาดพื้นที่ โดยเฉลี่ยอาจเริ่มต้นที่ 50,000 - 300,000 บาท หรือมากกว่านั้นในกรณีที่ใช้วัสดุ อุปกรณ์คุณภาพสูง รายการที่ต้องวางแผนลงทุนหลัก ๆ ได้แก่

  1. ค่าเช่าพื้นที่/ค่าทำสัญญา/ค่าปรับปรุง
  • ค่าเช่าล่วงหน้า/เงินประกัน : โดยทั่วไปคือ 2-3 เดือนของค่าเช่ารายเดือน เช่น ค่าเช่าเดือนละ 15,000 บาท คุณอาจต้องเตรียมเงินก้อนแรก 30,000 - 45,000 บาท
  • ค่าปรับปรุง/ตกแต่ง :  ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ การตกแต่ง สำหรับร้านเล็ก ๆ อาจอยู่ที่ประมาณหลักหมื่น หรือขึ้นอยู่กับการดีไซน์

 

  1. ค่าอุปกรณ์และเครื่องมือจำเป็น

อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็น เช่น เครื่องชงกาแฟ ตู้เย็น  เครื่องปั่น แก้ว หลอด เป็นต้น ลิสต์รายการที่จำเป็นจริง ๆ ก่อน แล้วค่อยเปรียบเทียบราคาและคุณสมบัติ 

  1. ค่าวัตถุดิบ

วัตถุดิบจำพวกเมล็ดกาแฟ นม ชา ไซรัปต่าง ๆ สั่งซื้อเท่าที่จำเป็นในช่วงแรกเพื่อทดสอบตลาด ลดความเสี่ยงการหมดอายุของวัตถุดิบ

  1. ค่าการตลาด และใบอนุญาต
  • ค่าป้ายร้าน/เมนู
  • ค่าจดทะเบียนพาณิชย์/ใบอนุญาตจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม

 

หากคุณอยากเปิดร้านขายน้ำเล็ก ๆ เงินทุนเริ่มต้นประมาณ 100,000 - 200,000 บาทอาจเพียงพอ แต่หากต้องการดีไซน์ร้านให้มีเอกลักษณ์ ให้เข้ากับบรรยากาศต่าง ๆ หรือมีที่นั่ง ก็อาจต้องเตรียมไว้ถึง 300,000 บาทขึ้นไป

 

เตรียมให้พร้อมเสมอ เงินหมุนเวียนรายเดือนสำคัญแค่ไหน

 

บาริสต้าเตรียมเสิร์ฟกาแฟให้ลูกค้า

 

เงินทุนหมุนเวียน คือเงินที่ต้องใช้จ่ายต่อเนื่องในแต่ละเดือน เพื่อให้กิจการดำเนินต่อไปได้ แม้รายได้ยังไม่คงที่ โดยเฉลี่ยควรเตรียมไว้ให้เพียงพออย่างน้อย 3 เดือนแรก รายการที่ควรรวมในการคำนวณ มีดังนี้ 

  • วัตถุดิบ : กาแฟ นมสด น้ำแข็ง ครีมเทียม ซอสต่าง ๆ ควรวางแผนจัดซื้อแบบหมุนเวียนทุกสัปดาห์ และควรมีงบประมาณราว 10,000 – 30,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับยอดขาย

  • บรรจุภัณฑ์ : แก้วกระดาษ แก้วพลาสติก ฝาปิด หลอด ถุงใส่เครื่องดื่ม ถุงหิ้ว ซึ่งอาจมีต้นทุนประมาณ 3,000 – 10,000 บาทต่อเดือน

  • ค่าจ้างพนักงาน/พาร์ทไทม์ : หากมีพนักงานประจำหรือพนักงานพาร์ทไทม์ ต้องเตรียมค่าจ้างขั้นต่ำหรือ OT เฉลี่ย 10,000 – 20,000 บาทต่อเดือน

  • ค่าน้ำ ค่าไฟ และอินเทอร์เน็ต : แม้จะเป็นร้านเล็ก แต่การใช้ไฟฟ้าจากอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น ตู้แช่ เครื่องชงกาแฟ อาจทำให้ค่าไฟพุ่งสูง ควรเตรียมงบประมาณไว้ราว 2,000 – 5,000 บาท

  • ค่าเช่าสถานที่ : กรณีเช่าพื้นที่ขายควรดูสัญญาเช่าให้ละเอียด ค่าที่เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 5,000 – 20,000 บาท ขึ้นอยู่กับทำเลและขนาดพื้นที่

  • ค่าใช้จ่ายฉุกเฉินหรือสำรอง : แนะนำให้กันเงินไว้อีก 10% – 20% ของงบรายเดือน เผื่อใช้ในกรณีเร่งด่วน เช่น เครื่องเสีย หรือสั่งวัตถุดิบที่ต้องการฉุกเฉิน 

ตัวอย่างการคำนวณง่าย ๆ : สมมุติร้านคุณมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนประมาณ 40,000 บาท ควรเตรียมเงินทุนหมุนเวียนล่วงหน้าไว้ 3 เดือน คือ 120,000 บาท เพื่อความมั่นใจในช่วงแรกที่เปิดร้าน

 

เช็กลิสต์! อยากเปิดร้านขายน้ำเล็ก ๆ ต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง?

 

บาริสต้าเตรียมชงกาแฟ

 

  1. อุปกรณ์สำหรับการเตรียมเครื่องดื่ม

ถือเป็นหัวใจของร้าน ไม่ว่าจะขายน้ำปั่น น้ำผลไม้ กาแฟ หรือชา จำเป็นต้องมีเครื่องมือในการชงหรือผสมเครื่องดื่ม

  • เครื่องปั่นน้ำผลไม้/สมูทตี้ – เลือกเครื่องปั่นที่มีกำลังไฟสูง ทนทาน และปั่นน้ำแข็งได้ละเอียดเนียน

  • เครื่องชงกาแฟ – สำหรับร้านเล็กๆ อาจพิจารณาเครื่องชง 1 หัวชง หรือ 2 หัวชงขนาดเล็ก ที่มีกำลังการผลิตเหมาะสมกับจำนวนแก้วที่คาดว่าจะขายต่อวัน

  • กาต้มน้ำไฟฟ้า/หม้อต้มชา – สำหรับร้านที่ขายชาร้อน ชาไทย หรือเมนูชง

  • ตู้เย็น/ตู้แช่ – สำหรับเก็บวัตถุดิบสด เช่น นมสด ผลไม้ น้ำแข็ง

  • อุปกรณ์วัดปริมาณ – แก้วตวง ช้อนตวง ช่วยให้ชงได้มาตรฐานทุกแก้ว

 

  1. อุปกรณ์สำหรับเสิร์ฟและบรรจุภัณฑ์

สิ่งเหล่านี้แม้ดูเล็กน้อย แต่มีผลต่อความสะดวกของลูกค้าและภาพลักษณ์ของร้านโดยตรง

  • แก้วกระดาษ/แก้วพลาสติก – ขึ้นอยู่กับประเภทเมนูที่ขาย

  • ฝาปิดแก้ว หลอด ถุงหิ้ว – เพื่อความสะดวกในการซื้อกลับบ้าน

  • ฉลากโลโก้ร้าน/สติ๊กเกอร์ – เพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ ในการสร้างแบรนด์ 

  • ภาชนะสำหรับเตรียมของ – เช่น เหยือกผสม ถาดรอง ถังน้ำแข็ง

 

  1. อุปกรณ์สำหรับการเก็บเงินและจัดการร้าน

ถึงจะเป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ แต่การจัดการระบบเงินที่ดีจะช่วยให้ควบคุมต้นทุน และวิเคราะห์ยอดขายได้แม่นยำ

  • เครื่องคิดเงิน หรือระบบ POS – จัดการยอดขาย รายงานสต็อก และออกใบเสร็จ

  • ลิ้นชักเก็บเงิน/กระเป๋าเก็บเงิน – เพื่อความปลอดภัยและแยกเงินทอนอย่างเป็นระบบ

  • เครื่องพิมพ์ใบเสร็จ/เครื่องสแกน QR Code – เพิ่มความสะดวกในการรับชำระเงิน

 

  1. เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งร้าน

การตกแต่งร้านให้ดูน่ารัก น่านั่ง ก็ช่วยดึงดูดลูกค้าและสร้างภาพจำได้ดี

  • เคาน์เตอร์ชงเครื่องดื่ม

  • โต๊ะ-เก้าอี้ (ถ้ามีพื้นที่ให้นั่ง) – แนะนำเลือกแบบพับเก็บได้เพื่อประหยัดพื้นที่

  • ป้ายเมนู ป้ายโปรโมชั่น – สื่อสารข้อมูลกับลูกค้าได้ชัดเจน

  • โคมไฟ/ของตกแต่งเล็ก ๆ – สไตล์วินเทจ หรือมินิมอล เพิ่มความอบอุ่นและดึงดูดสายตา

 

  1. อุปกรณ์ทำความสะอาด

เพื่อสุขอนามัย และความสะอาดของร้าน ควรมีชุดทำความสะอาด จัดการพื้นที่อย่างเป็นระบบระเบียบ 

  • ผ้าทำความสะอาด/น้ำยาฆ่าเชื้อ – ใช้เช็ดพื้นผิวและอุปกรณ์ต่าง ๆ

  • ถังขยะพร้อมฝาปิด – เพื่อความสะอาดและควบคุมกลิ่น


เริ่มต้นเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ ไปกับ BENO ตัวเลือกที่ใช่สำหรับคุณ! 

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากเปิดร้านขายน้ำเล็ก ๆ หรือกำลังวางแผนเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ ในฝันให้เป็นจริง ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป! เพียงแค่รู้จักเลือกเครื่องชงกาแฟสำหรับร้านเล็ก ๆ ที่ตอบโจทย์ ก็สามารถยกระดับเครื่องดื่มของคุณให้ดูเป็นมืออาชีพได้ทันที นอกจากเครื่องชงกาแฟแล้ว อุปกรณ์ชงกาแฟที่ทุกคาเฟ่ต้องมีก็สำคัญไม่แพ้กัน ทั้งเครื่องบดกาแฟคุณภาพดี อุปกรณ์ตวงที่ได้มาตรฐาน BENO เข้าใจดีถึงความต้องการสำหรับบริสต้ามือใหม่ และมือโปร จึงได้รวบรวมสินค้าคุณภาพที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีให้คุณ และที่พิเศษสุดๆ! BENO มีข้อเสนอสุดคุ้ม ลดราคาพิเศษ 200 บาท เมื่อใช้โค้ด BENOA200 ที่ Shopee อย่ารอช้า โอกาสดี ๆ แบบนี้มีจำนวนจำกัด เตรียมตัวช้อปของเข้าร้านให้พร้อม แล้วไปเปิดร้านขายน้ำเล็ก ๆ ที่ฝันกันได้เลย!

 

อุปกรณ์ชงกาแฟในร้านกาแฟเล็ก ๆ

 



More articles