หลายคนคงได้เห็นคำว่า Specialty coffee ที่กำลังมาแรงแล้วเกิดความสงสัยว่ามันคืออะไร ทำไมเมนูในร้านถึงมีราคาสูงกว่าร้านอื่น บางคนถึงกับยอมจ่ายในราคาที่แพงขึ้น เพราะเชื่อว่าจะได้ล้ิมรสกาแฟที่คุณภาพสูงในร้านกาแฟ Specialty Coffee แล้วแท้จริงแล้วนั้น Specialty Coffee คืออะไร ไปรู้จักกันเลย
Specialty coffee คืออะไร
Specialty coffee แปลตรงตัวเลยก็คือ กาแฟพิเศษ หมายถึงเมล็ดกาแฟพิเศษที่ถูกคัดเลือกและผลิตอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่การเพาะปลูก สภาพแวดล้อม กระบวนการเก็บเกี่ยว จนได้กาแฟพิเศษซึ่งมีเอกลักษณ์ตามแหล่งเพาะปลูกนั้น และจะมีเกณฑ์การให้คะแนนจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งต้องได้รับคะแนนถึงเกณฑ์เท่านั้นจึงจะเรียกว่าเป็น กาแฟ Specialty และจะมีราคาสูงกว่ากาแฟทั่วไปที่ขายอยู่ในท้องตลาด ซึ่งเป็น Commercial grade ดังนั้นร้านกาแฟที่ใช้เมล็ดกาแฟเกรดพิเศษหรือเกรด Specialty ก็จะเรียกว่าเป็นร้านกาแฟ Specialty มักจะบอกถึงแหล่งเพาะปลูกของเมล็ดกาแฟที่มีให้เลือก ระดับการคั่วเมล็ดกาแฟ และแน่นอนว่าราคาก็ย่อมสูงกว่าร้านกาแฟทั่วไป บางร้านจัดให้มีมุมสวยสำหรับถ่ายรูป จึงเป็นที่นิยมของคอกาแฟที่ต้องการความแตกต่าง
Specialty coffee อ่านว่าอะไร
Specialty coffee หรือ สเปเชียลตี คอฟฟี มีร้านกาแฟที่ใช้ชื่อว่าสเปเชียลตี คอฟฟีเกิดขึ้นมากในปัจจุบัน แต่บางครั้งชื่อร้านก็ไม่ได้บ่งบอกถึงคุณภาพหรือระดับคะแนนของเมล็ดกาแฟแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นหากจะเลือกดื่มกาแฟสเปเชียลตีที่มีราคาสูง ก็ต้องรู้จักกับเมล็ดกาแฟสเปเชียลตีกันสักเล็กน้อย
หลักเกณฑ์ของ Specialty coffee มีอะไรบ้าง
คำว่า Specialty coffee ไม่ได้ได้มาง่าย ๆ เพราะหมายถึงกาแฟพิเศษ ที่มีเกณฑ์การให้คะแนนระบุอย่างชัดเจน ตั้งแต่การปลูก คัด คั่ว บด กลั่น ชง และได้รับการรับรองจากนักชิมที่มีความเชี่ยวชาญ ถึงจะเรียกว่า Specialty Coffee ได้
เกณฑ์การให้คะแนนของ Specialty coffee มี 10 หัวข้อใหญ่ ๆ ได้แก่
- กลิ่น (Aroma) กลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟที่บดไว้ไม่นานเกินกว่า 15 นาที และกลิ่นหอมที่ระเหยออกมาขณะน้ำร้อนไหลผ่าน
- รส (Flavor) กลิ่นและรสสัมผัสเมื่อชิม
- รสที่ค้างอยู่ในลำคอ (Afertaste) เมื่อกลืนลงไปแล้วกลิ่นและรสที่ค้างอยู่ในคอยาวนานเพียงใด และน่าประทับใจมากน้องแค่ไหน
- ความเปรี้ยว (Acidity)
- บอดี้หรือความหนักเบาของกาแฟ (Body)
- ความสมดุล (Balance) ระหว่าง รส, Aftertaste, ความเปรี้ยวและบอดี้ของกาแฟ
- ความไม่ต่างจากกัน (Uniformity) โดยจะแบ่งกาแฟออกเป็น 5 แก้ว แล้วชิมรสว่ามีแก้วใดที่รสชาติแตกต่างออกไปหรือไม่
- ความสะอาดในรสชาติ (Clean cup) กลิ่นและรสชาติต้องสะอาด
- ความหวาน (Sweetness) เมื่อสารประกอบในกาแฟถูกกระตุ้นด้วยความร้อนจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลที่สามารถรับรสชาติได้
- ภาพรวม (Overall) เป็นคะแนนจากนักชิม ซึ่งจะให้คะแนนตามคุณลักษณะของกาแฟ
ทั้ง 10 ข้อนี้ จะมีคะแนนข้อละ 10 คะแนน และต้องได้ 80 คะแนนจึงจะถือได้ว่าเป็น Specialty coffee ที่ร้านกาแฟ Specialty coffee นำมาใช้ ส่วนกาแฟที่ได้คะแนนในระดับ 6 ขึ้นไปก็จะจัดเป็นกาแฟเกรดดี
เมล็ดกาแฟ Specialty ต้องเป็นอย่างไร
เมล็ดกาแฟ specialty coffee มักจะมีระดับการคั่วอ่อน (Light Roast) เพื่อรักษากลิ่นและรสชาติของกาแฟที่มาจากแหล่งกำเนิด ทำให้กาแฟพวกนี้มักมีรสเปรี้ยวจากความเป็น acidity ทำให้หลายคนไม่คุ้นเคย ซึ่งกาแฟ Specialty เหล่านี้ ส่วนใหญ่มักจะมาจากประเทศทางแถบแอฟริกา เพราะกาแฟในแถบนั้นมักจะมีกลิ่นที่ซับซ้อนแต่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแหล่งปลูก ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นดอกไม้ หรือกลิ่นของคาราเมล ยกตัวอย่างเช่น กาแฟจาก Ethiopia ที่ให้กลิ่นหอมของดอกไม้ กาแฟจาก Brazil จะโดดเด่นในเรื่องความหวานหอม มีกลิ่นคล้ายคาราเมล หรือกาแฟจาก Panama ที่มีกลิ่นและรสที่ซับซ้อน แต่เมล็ดกาแฟเหล่านี้มักมีราคาที่สูงมาก จึงหาดื่มได้ยาก
ตัวอย่างเมนูกาแฟ Specialty
ร้านกาแฟ Specialty แต่ละร้านก็มักสร้างสรรค์เมนูกาแฟที่แปลก และแตกต่างออกมาไม่ต่างจากร้านกาแฟทั่วไป แต่เมนูกาแฟที่ดื่มแล้วได้รสชาติที่แท้จริงของเมล็ดกาแฟ Specialty นั้น ได้แก่
1 Ristetto (ริสเทรตโต้)
เป็นเมนูกาแฟที่มีความเข้มข้นมาก คล้ายกับเอสเปรสโซ่ แต่มีความเข้มข้นมากกว่า เอสเปรสโซ่จะมีอัตราส่วนของกาแฟต่อน้ำอยู่ที่ 1 ต่อ 2 ในขณะที่ริสเทรตโต้นั้นจะมีอัตราส่วนเพียง 1 ต่อ 1 ซึ่งจะเสิร์ฟเป็นแก้วเล็ก ๆ เพราะริสเทรตโต้ 1 ช็อตจะได้ปริมาณน้ำกาแฟเพียง 15 มล. เท่านั้น เหมาะกับผู้ที่ชอบดื่มด่ำกับรสชาติเข้มข้นของกาแฟ
2 Flat White (แฟลตไวท์)
เมนูนี้คล้ายกับลาเต้ (Latte) แต่มีปริมาณโฟมนมน้อยกว่า จึงได้รสชาติของกาแฟที่เด่นชัดกว่า หากคุณชื่นชอบดื่มกาแฟใส่นมแล้วละก็ เมื่อเข้าร้าน Specialty ก็แนะนำให้เลือกเป็น Flat white จะได้ลิ้มรสกาแฟที่ชัดเจนกว่ากาแฟใส่นมชนิดอื่น
3 Piccolo Latte (พิกโคโล่ ลาเต้)
อีกหนึ่งเมนูกาแฟนมที่น่าลิ้มลอง เพราะ Piccolo latte จะใส่นมสดในปริมาณที่น้อยกว่า ทำให้มีรสชาติเข้มข้น และไม่มีโฟมนม ทำให้ได้รสชาติของกาแฟผสมกับความหวานละมุนของนมไปเต็ม ๆ
4. Dirty (เดอร์ตี้)
กาแฟ Dirty เป็นเมนูกาแฟที่มีส่วนผสมของนมเช่นกัน แต่ให้รสชาติที่แตกต่าง เพราะเป็นการเทกาแฟเอสเปรสโซ่ร้อน ๆ ลงไปบนนมที่เย็นจัด โดยไม่ใส่น้ำแข็ง ถ้าอยากดื่มกาแฟเข้มข้นแต่มีความเย็นและนุ่มละมุนของกาแฟ หรือดื่มโดยไม่คน จะทำให้ได้รสชาติที่แตกต่างกันในแต่ละชั้น ลิ้มรสกาแฟก่อน แล้วจึงตามด้วยนมสดเย็นที่อยู่ชั้นล่าง
แนะนำร้าน Specialty Coffee
ร้านกาแฟ Specialty ในไทยก็มีหลายร้านที่มีชื่อเสียง จึงอยากแนะนำร้านกาแฟ Specialty พร้อมด้วยเมนูซิกเนเจอร์ของแต่ละร้านในไทย ให้คอกาแฟไปเลือกดื่มกัน
1. Factory Coffee Airport Rail Link สถานีพญาไท
เป็นร้านกาแฟ Specialty ที่บาริสต้าของร้านคว้ารางวัลมามากมาย ทั้งตำแหน่งชนะเลิศ Thailand Indy Barista 2017 รางวัล National Thailand Barista 2017 และ National Barista Champion 2018 มีรางวัลการันตีขนาดนี้ก็การันตีคุณภาพและเทคนิคของการชงกาแฟได้ สำหรับเมนูแนะนำของร้านคือ Mrs.Cold กาแฟที่ใช้นมเย็นจัด ราดด้วยช็อตเอสเปรสโซ่และไซรัปโฮมเมดของทางร้าน
2. Hario Cafe Bangkok โชคชัย 4 ซอย 39
ร้านกาแฟสัญชาติญี่ปุ่นที่มีสาขาทั้งในญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และสาขาที่ 3 ที่ประเทศไทย ร้านดูมินิมัลน่ารักเน้นโทรสีขาว และแสงธรรมชาติ นอกจากได้ดื่มด่ำกับกาแฟแล้ว ยังได้สัมผัสกับบรรยากาศสบายๆ เรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่น ที่ดูอบอุ่นอีกด้วย เมนูที่ทางร้านแนะนำก็คือกาแฟดริปซึ่งสกัดจากเมล็ดกัวเตมาลา ที่ให้รสสัมผัสแบบ Fruity มีกลิ่นของผลไม้ สตรอเบอร์รี่และมอลต์ เหมาะกับบรรยากาศที่เรียบง่ายในร้าน
3 กระทรวงการคั่ว สุขุมวิท 101/1
ร้านกาแฟชื่อเก๋ที่คัดสรรเมล็ดกาแฟจากทั่วโลก นอกจากเป็นร้านกาแฟแล้วก็ยังเป็นโรงคั่วกาแฟเองอีกด้วย บาริสต้าที่นี่ก็มีรางวัลการันตีจากหลายเวที สำหรับที่กระทรวงการคั่วนี้มีเมล็ดกาแฟให้เลือกมากถึง 30 ชนิด และอุปกรร์ดริปกาแฟที่หลากหลายเหมาะกับเมล็ดกาแฟแต่ละชนิด โดยราคาจะขึ้นอยู่กับเมล็ดกาแฟที่เลือกด้วย
รู้จักกับ Specialty coffee รวมถึงร้านกาแฟ Specialty และเมนูที่แนะนำกันแล้ว ก็เปิดใจแล้วออกตะลุยชิมกาแฟ Specialty กันได้เลย นอกจากจะได้รสชาติกาแฟคุณภาพดีแล้ว ก็ยังไดด้บรรยากาศที่แตกต่างในร้านกาแฟแบบพิเศษนี้ด้วย
คั่วเอง ชงเอง อร่อยเอง! ด้วยเครื่องชงกาแฟ Beno ให้คุณควบคุมทุกขั้นตอนในการชงกาแฟ ตั้งแต่การเลือกเมล็ดกาแฟ การปรับระดับการบด และอุณหภูมิในการชง ทำให้คุณได้ลิ้มลองกาแฟรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณ ตอนนี้มีโปรโมชั่นสุดพิเศษ ลด 200 บาท เมื่อใส่โค้ดลด BENOA200 สุดคุ้มเฉพาะคุณ ที่ Shopee Thailand สายกาแฟห้ามพลาด!