รู้จักกับ “บาริสต้า” หนึ่งในตำแหน่งหัวใจหลักของร้านกาแฟ

บาริสต้า อาชีพที่หลายคนสงสัยว่ามีหน้าอะไรบ้าง เป็นแค่คนชงกาแฟในร้านกาแฟหรือเปล่า วันนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับบาริสต้า พระเอกของร้านกาแฟว่าเขาคนนี้มีหน้าที่อะไรบ้าง

 

บาริสต้า (Barista) คืออาชีพอะไร

บาริสต้า ไม่ใช่เพียงแค่คนชงกาแฟ แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟที่ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก ทำหน้าที่ตั้งแต่เตรียมกาแฟ รังสรรค์เมนูกาแฟที่เป็นหน้าตาของร้าน  บาริสต้าจะต้องมีความรูเรื่องเมล็ดพันธุ์ของกาแฟ ประเภทการคั่ว ความแตกต่างของเมล็ดกาแฟแต่ละแบบ และเทคนิควิธีการชงกาแฟ อัตราส่วนของน้ำ  การทำลาเต้อาร์ต ไปจนถึงการให้บริการลูกค้าด้วย

 

บาริสต้ามีกี่ระดับ 

บาริสต้ามีหน้าที่ดูแลทุกอย่างในร้านคาเฟ่ตั้งแต่ลูกค้า เมนูที่เสิร์ฟในร้าน ไปจนถึงบรรยากาศภาพรวมและความสะอาดของร้าน ซึ่งในร้านกาแฟขนาดใหญ่จะมีบาริสต้าหลายคนทำงานร่วมกัน โดยบาริสต้าก็เป็นตำแหน่งที่มีหลายระดับ ดังนี้

 

 

1. บาริสต้าระดับผู้จัดการ (Manager Barista)

ทำหน้าที่ดูแลควบคุมการให้บริการ คิดค้นรังสรรค์เมนูต่าง ๆ ที่ให้บริการในร้าน ตลอดจนดูแลการทำงานของบาริสต้าในระดับอื่น ๆ ให้การทำงานในร้านเป็นไปอย่าราบรื่น

 

2. ผู้ช่วยบาริสต้า (Trainer Barista)

ผู้ช่วยบาริสต้าจะทำหน้าที่ชงเครื่องดื่มตามมาตรฐานของร้าน ให้ข้อมูลเมล็ดกาแฟหรือเมนูต่าง ๆ ในร้าน และดูแลความเรียบร้อยของบาร์เครื่องดื่ม หรือบริเวณที่ชงกาแฟ

 

3. บาริสต้าระดับเริ่มต้น (Junior Barista)

บาริสต้าที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน ยังมีประสบการณ์น้อย มีหน้าที่ช่วยเหลือผู้ช่วยบาริสต้าและบาริสต้าในการจัดการเครื่องดื่มเมนูต่าง ๆ ตรวจสอบวัตถุดิบในร้าน เตรียมอุปกรณ์ รวมถึงดูแลทำความสะอาดอุปกรณ์และบริเวณที่ชงกาแฟ

 

ผู้ช่วยบาริสต้าคืออะไร

ผู้ช่วยบาริสต้ามีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย เช็คสต็อกวัตถุดิบ รวมถึงอุปกรณ์ในการชงกาแฟให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ และต้องชงเครื่องดื่มเมนูมาตรฐานของร้านได้เหมือนกับบาริสต้า

 

 

 

 

บาริสต้า ทําอะไรบ้าง

หน้าที่ของบาริสต้านอกจากต้องมีใจรัก และมีความรู้เรื่องกาแฟเป็นอย่างดีแล้ว ยังมีหน้าที่อื่น ๆ อีกมากมาย เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญในร้านกาแฟที่ขาดไม่ได้ และเป็นผู้ที่สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า โดยหน้าที่หลัก ๆ จะประกอบด้วย

1. การรังสรรค์เมนูกาแฟ

นอกจากการชงกาแฟเมนูมาตรฐานแล้ว บาริสต้ายังมีหน้าที่สร้างสรรค์เมนูกาแฟที่เป็น Siganature ของร้าน เพื่อดึงดูดลูกค้า หรือการตกแต่งเมนูกาแฟแต่ละชนิดให้ดูสวยงาม แตกต่าง 

2. คัดเลือกวัตถุดิบ

บาริสต้าต้องมีความรู้เรื่องกาแฟเป็นอย่างดี ดังนั้นการคัดเลือกวัตถุดิบเพื่อให้ชงกาแฟได้รสชาติตามที่ต้องการก็เป็นหน้าที่ของบาริสต้าเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดกาแฟชนิดต่าง ๆ ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน โกโก้ นมสด ต้องผ่านการคัดสรรอย่างปราณีตจากบาริสต้า

3. ดูแลลูกค้า

นอกจากชงกาแฟได้อร่อยแล้ว บาริสต้าต้องมีหน้าที่ดูแลพูดคุยกับลูกค้า แนะนำเมนูกาแฟหรือรสชาติของกาแฟแต่ละชนิดให้ลูกค้าเข้าใจ รวมถึงรับคำติชมจากลูกค้าเพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้น

4. ดูแลเครื่องมือ อุปกรณ์ในการชงกาแฟ

ดูแลความเรียบร้อยของอุปกรณ์และเครื่องชงกาแฟให้อยู่ในภาพพร้อมใช้ เพราะความสะอาดและความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ที่ใช้ชงกาแฟก็ส่งผลต่อรสชาติของกาแฟด้วยเหมือนกัน

จะเห็นได้ว่าหน้าที่ของบาริสต้าค่อนข้างหลากหลายไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากมีความรู้เรื่องกาแฟอย่างดีแล้ว ยังต้องมีใจรักในการบริการ และรักที่จะพูดคุยให้คำแนะนำกับลูกค้าเพื่อให้เข้าใจถึงเมนูกาแฟที่แตกต่างกันอีกด้วย

 

  

อยากเป็นบาริสต้า ต้องเรียนอะไร 

ปัจจุบันมีสถาบันมากมายที่เปิดหลักสูตรบาริสต้าเพียงระยะสั้น ๆ ก็สามารถชงกาแฟเป็นแล้ว แต่การเป็นบาริสต้านั้นถึงแม้ใช้เวลาเรียนไม่นานแต่ต้องใช้เวลาในการสั่งสมประสบการณ์จนมีความเชี่ยวชาญ เข้าใจถึงระดับการคั่วกาแฟ คาแรคเตอร์ของเมล็ดกาแฟแต่ละชนิด รวมถึงการตกแต่งแก้วกาแฟให้สวยงามและมีเอกลักษณ์

 

บาริสต้าต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนที่ชื่นชอบกาแฟก็อยากหันมาประกอบอาชีพบาริสต้ากันแล้ว เรามาดูคุณสมบัติเบื้องต้นที่บาริสต้าต้องมีกันเลย

• มีใจรักในกาแฟ

หากคิดจะเป็นบาริสต้าต้องมีความหลงใหลและรักกาแฟเสียก่อน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุด เมื่อมีใจรักแล้วต้องพร้อมที่จะศึกษาหาข้อมูล ความรู้เกี่ยวกับกาแฟ รวมถึงฝึกฝนการชงกาแฟแบบต่าง ๆ จนมีทักษะที่เชี่ยวชาญ 

• มีความละเอียดรอบคอบ

บาริสต้าเป็นอาชีพที่ต้องใช้ความละเอียดสูง เพราะการชงกาแฟต้องใช้ทักษะและความปราณีตค่อนข้างมาก ตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดกาแฟ ระดับของการคั่ว การบดเมล็ดกาแฟ น้ำหนักของเมล็ดกาแฟและปริมาณน้ำที่ใช้ชงกาแฟ รวมไปถึงใส่ใจในสิ่งที่ลูกค้าต้องการเพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการและได้ดื่มกาแฟที่ถูกใจ

• มีใจรักในการให้บริการ

เมื่อมีลูกค้าเข้ามาในร้านแล้ว บาริสต้ามีหน้าที่สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ตั้งแต่การแนะนำเมนูกาแฟ รสชาติกาแฟแต่ละชนิด เพื่อให้ลูกค้าเลือกเมนูกาแฟได้ตรงใจที่สุด

 

 

พนักงานชงกาแฟกับบาริสต้าต่างกันยังไง 

บาริสต้าไม่ใช่เพียงแค่พนักงานชงกาแฟ แต่บาริสต้าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่รอบรู้เรื่องกาแฟเป็นอย่างดี ตั้งแต่สายพันธุ์กาแฟ การคั่วบด การชงกาแฟ รวมไปถึงจากตกแต่งแก้วกาแฟให้สวยงาม จนถึงคิดค้นเมนูกาแฟใหม่ ๆ ให้กับร้านอีกด้วย ส่วนพนักงานชงกาแฟมีหน้าที่ชงกาแฟตามสูตรที่บาริสต้ากำหนดไว้ให้ได้มาตรฐาน

 

บาร์เทนเดอร์กับบาริสต้าต่างกันยังไง

บาร์เทนเดอร์กับบาริสต้าเป็นอาชีพที่ทำงานกับเครื่องดื่มเช่นกัน แต่มีความแตกต่างกันอยู่ คือ

บาร์เทนเดอร์เป็นผู้เชี่ยวชาญในการผสมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ มีหน้าที่เตรียมและผสมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยในเมนูเครื่องดื่มบางชนิดอาจมีกาแฟเป็นส่วนผสมอยู่ด้วย รวมไปถึงผสมเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เช่น Mocktail หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่น ๆ เช่น ไวน์ เบียร์ วิสกี้ เพื่อให้บริการในบาร์

ส่วนบาริสต้านั้นจะมีความเชี่ยวชาญในเรื่องกาแฟ และชงเครื่องดื่มที่มีกาแฟเป็นส่วนผสมหลัก โดยในเมนูกาแฟนั้นอาจมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมด้วย

 

ทั้งบาร์เทนเดอร์และบาริสต้าก็เป็นอาชีพที่ต้องมีความเชี่ยวชาญในเครื่องดื่ม และมีหน้าที่ดูแลลูกค้าที่บาร์เช่นกัน ดังนั้นทั้งบาร์เทนเดอร์และบาริสต้าก็มีหน้าที่ใกล้เคียงกัน แต่แตกต่างกันที่เมนูเครื่องดื่มที่เชี่ยวชาญนั่นเอง หากคิดจะเป็นบาริสต้าแล้ว การศึกษาหาความรู้ก็ไม่ใช่เรื่องยากเพราะมีหลายสถาบันเปิดสอนหลักสูตรบาริสต้าตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงระดับสูง เพียงแต่ต้องมีความขยันหมั่นเพียร และมานะอดทนในการสั่งสมประสบการณ์เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญในเรื่องกาแฟ

 

เริ่มจากเครื่องชงกาแฟ Beno ที่ชงกาแฟได้หลากหลายแบบ ทั้งเอสเปรสโซ่ คาปูชิโน่ หรือจะดริปก็ได้หมด แถมยังปรับตั้งอุณหภูมิและระดับน้ำได้ตามใจชอบ ครบฟังก์ชันสำหรับบาริสต้ามืออาชีพ ไปสนุกกับการสร้างสรรค์กาแฟสูตรใหม่ ๆ ได้ทุกวัน พร้อมส่วนลดเต็ม ๆ 200 บาท เมื่อใช้โค้ด BENOA200 ที่ Shopee Thailand