กาแฟโบราณเป็นเมนูหนึ่งที่หลายคนสับสน สงสัยว่าคือเมนูอะไร แตกต่างอย่างไรกับกาแฟสด แล้วหากต้องการกาแฟอร่อย ๆ สักแก้ว ควรเลือกกาแฟสดหรือกาแฟโบราณ พร้อมบอกสูตรกาแฟโบราณที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน ไปทำความเข้าใจและทำตามกันเลย
กาแฟโบราณ คืออะไร?
กาแฟโบราณคือเมล็ดกาแฟที่นำมาคั่วผสมกับธัญพืชชนิดต่าง ๆ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค ในประเทศไทยนิยมใช้ ข้าวโพด ข้าวกล้อง ถั่วเหลือง งา เม็ดมะขาม และเครื่องปรุง เช่น เกลือ น้ำตาล คั่วรวมกับเมล็ดกาแฟ ทำให้ได้กาแฟที่มีกลิ่นหอมเฉพาะ และมีรสชาติอร่อย
ต้นกำเนิดกาแฟโบราณ
กาแฟโบราณไม่ได้มีแค่ในเมืองไทยเท่านั้น ในต่างประเทศเองก็มีกาแฟโบราณเหมือนกัน แต่อาจให้กลิ่นหรือรสที่แตกต่างจากกาแฟโบราณในไทย และมีวิธีการชงที่แตกต่างกัน
โดยจุดกำเนิดของกาแฟโบราณเริ่มในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมล็ดกาแฟซึ่งเป็นสินค้าเศรษฐกิจที่สำคัญในตลาดโลก มีราคาสูงและเริ่มขาดแคลน พ่อค้าแม่ค้าจึงต้องปรับตัวเพื่อลดต้นทุน โดยใส่ธัญพืชลงไปคั่วรวมกับเมล็ดกาแฟ ซึ่งธัญพืชที่นำมาใช้มีหลากหลายตามที่แต่ละภูมิภาคจะมหาได้ และมีผู้พยายามคิดค้นการใส่วัตถุดิบอื่นลงไป เพื่อทำให้ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ หรือลดคาเฟอีนในกาแฟ
ในประเทศไทยก็มีการคั่วเมล็ดกาแฟโดยผสมกับธัญพืชต่าง ๆ ที่เป็นที่นิยมคือเม็ดมะขาม เนื่องจากราคาไม่แพง ทำให้กาแฟมีรสเปรี้ยวของเม็ดมะขามผสมอยู่ด้วย จนทำให้เกิดเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟโบราณที่มีกลิ่นหอมเฉพาะ และกลายมาเป็นเมนูยอดฮิตต่อมา
กาแฟโบราณแตกต่างจากกาแฟสดอย่างไร?
![กาแฟไทยแท้](https://cdn.shopify.com/s/files/1/0778/0591/2351/files/traditional_thai_coffee_1024x1024.jpg?v=1735654619)
กาแฟโบราณและกาแฟสดนั้นมีจุดเด่นและกระบวนการผลิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยกาแฟโบราณมักใช้ผงกาแฟคั่วเข้มที่ผสมกับธัญพืชต่าง ๆ เช่น ข้าวโพด เม็ดมะขาม ซึ่งให้รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นไหม้ และมีความหวานมันเป็นเอกลักษณ์ ขณะที่กาแฟสดจะใช้เมล็ดกาแฟคั่วสดใหม่ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ชงด้วยเครื่องชงกาแฟเฉพาะ เพื่อให้ได้รสชาติที่หลากหลายและซับซ้อนกว่า นอกจากนี้ กระบวนการคั่วของกาแฟทั้งสองชนิดก็แตกต่างกัน โดยกาแฟโบราณมักคั่วเข้มเพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นหอมที่โดดเด่น ขณะที่กาแฟสดนั้นมีการควบคุมระดับการคั่วที่หลากหลาย เพื่อให้ได้รสชาติที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์และโปรไฟล์รสชาติที่ต้องการ นอกจากนี้ การชงกาแฟโบราณก็ค่อนข้างง่าย เพียงแค่ละลายผงกาแฟในน้ำร้อน แต่การชงกาแฟสดนั้นมีความซับซ้อนมากกว่า เนื่องจากต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิน้ำ ขนาดปริมาณกาแฟ และเวลาในการชง เพื่อให้ได้รสชาติที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้น การเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้ จะช่วยให้บาริสต้าสามารถเลือกใช้กาแฟที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า และสามารถอธิบายถึงความแตกต่างของรสชาติและกลิ่นอายของกาแฟทั้งสองชนิดได้อย่างชัดเจน
กาแฟโบราณต่างจากอเมริกาโน่ยังไง
กาแฟโบราณ หากชงแบบกาแฟดำ คือไม่ผสมเครื่องปรุงรสอื่นใด มีเพียงน้ำและกาแฟเท่านั้น ก็จะใกล้เคียงกับอเมริกาโน ซึ่งกาแฟโบราณจะเลี้ยงว่า “โอเลี้ยง” แต่โอเลี้ยงกับอเมริกาโนก็มีความแตกต่างกัน คือ โอเลี้ยงหรือกาแฟโบราณเมล็ดกาแฟจะถูกคั่วรวมกับธัญพืชและมีการปรุงรสด้วย เกลือ หรือ น้ำตาล ในระหว่างการคั่ว ซึ่งจะให้กลิ่นเฉพาะตัวที่แตกต่างจากอเมริกาโนที่เป็นเมล็ดกาแฟคั่วโดยไม่ใส่ธัญพืช ดังนั้นกาแฟโบราณจะแตกต่างจากกาแฟสดอื่น ๆ หรืออเมริกาโน่ที่กลิ่น และอาจมีรสชาติที่แตกต่างกันเล็กน้อย
กาแฟโบราณ มีอะไรบ้าง
กาแฟโบราณก็สามารถชงได้หลากหลายเมนูเช่นเดียวกับกาแฟสด โดยเมนูที่เป็นที่นิยมมีด้วยกันหลายเมนู เช่น
- โอเลี้ยง แค่ชื่อก็ชวนให้ชื่นใจแล้ว! คำว่า "โอเลี้ยง" มาจากภาษาจีนแต้จิ๋ว หมายถึง "กาแฟดำเย็น" ซึ่งเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่หาได้ทั่วไปในร้านกาแฟโบราณ รสชาติเข้มข้นของกาแฟดำผสานกับความหวานของน้ำตาล ทำให้ได้รสชาติที่ลงตัว ชื่นใจ เหมาะสำหรับคนรักกาแฟเข้ม ๆ
- โอเลี้ยงยกล้อ ชื่อเก๋ไก๋ที่มาจากภาพของการเทนมลงไปในกาแฟจนดูเหมือนรถจักรยานกำลังยกล้อ! นอกจากจะได้รสชาติเข้มข้นของกาแฟแล้ว ยังได้ความหอมมันจากนมอีกด้วย ทำให้โอเลี้ยงยกล้อเป็นเหมือนลาเต้สไตล์ไทย ๆ ที่ใคร ๆ ก็หลงรัก
- จ้ำบ๊ะ ความลงตัวระหว่างกาแฟเข้มข้นและความหวานอมเปรี้ยวของน้ำแดง ทำให้จ้ำบ๊ะเป็นอีกหนึ่งเมนูที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชอบรสชาติที่แตกต่าง ไม่เหมือนใคร รสชาติหวานอมเปรี้ยวชื่นใจ ช่วยดับกระหายได้ดี
- โอยัวะ คือกาแฟดำร้อน ๆ สไตล์โบราณ รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นกาแฟคั่วบด เหมาะสำหรับคนที่ชอบกาแฟรสเข้มแท้ ๆ
- หน่อเค่า เมนูที่ไม่ค่อยคุ้นหู คือกาแฟผสมชา แบบไม่ใส่นม ก็คือกาแฟและชาดำเย็น แต่ต้องมีสัดส่วนของกาแฟมากกว่า
- หน่อบี่ คล้ายกับหน่อเค่าเป็นเมนูกาแฟผสมชาเช่นเดียวกัน แต่หน่อบี่จะมีรสชาติของชามากกว่ากาแฟ
- กาแฟโบราณ รสชาติคลาสสิกที่ไม่เคยล้าสมัย กาแฟเข้มข้นผสมกับนมเย็นและนมข้นหวาน ให้รสชาติหวานมันกลมกล่อม เป็นเมนูที่ดื่มได้ทุกเมื่อทุกโอกาส
- โกปี๊ เครื่องดื่มยอดนิยมจากภาคใต้ ที่มีที่มาจากคำว่า "Coffee" แต่ถูกปรับเปลี่ยนสำเนียงจนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว กาแฟโกปี๊โดดเด่นด้วยการนำเสนอชั้นของกาแฟดำเข้มข้นวางอยู่ด้านบน และนมข้นหวานด้านล่างอย่างชัดเจน สร้างความลงตัวระหว่างความหวานมันของนมข้นหวานและความเข้มข้นของกาแฟดำ ทำให้ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
แจกสูตรกาแฟโบราณดั้งเดิม สไตล์ต้นตำรับ
![กาแฟโบราณ](https://cdn.shopify.com/s/files/1/0778/0591/2351/files/how_to_do_thai_traditional_coffee_1024x1024.jpg?v=1711863226)
1. สูตรโอเลี้ยง
ส่วนผสม- ผงกาแฟโบราณ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 180 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 3 ช้อนชา
- น้ำแข็ง
วิธีทำ
- ตักผงกาแฟใส่ถุงกรอง เทน้ำร้อนลงไป
- แล้วให้เทน้ำกาแฟผ่านถุงกรองแช่ 2 นาที
- แล้วเทสลับไปมา 3-4 รอบ เพื่อกลิ่นหอมและรสชาติที่เข้ม
- เมื่อได้กาแฟดำแล้วให้เติมน้ำตาลทราย แล้วคนให้ละลายเข้ากัน
- ตักน้ำแข็งใส่แก้ว แล้วเทโอเลี้ยงลงไปเลย
2. สูตรโอเลี้ยงยกล้อ
ส่วนผสม
- ผงกาแฟโบราณ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 180 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 3 ช้อนชา
- นมสดหรือนมข้นจืด
- น้ำแข็ง
วิธีทำ
- ตักผงกาแฟใส่ถุงกรอง เทน้ำร้อนลงไป
- แล้วให้เทน้ำกาแฟผ่านถุงกรองแช่ 2 นาที
- แล้วเทสลับไปมา 3-4 รอบ เพื่อกลิ่นหอมและรสชาติที่เข้ม
- เมื่อได้กาแฟดำแล้วให้เติมน้ำตาลทราย แล้วคนให้ละลายเข้ากัน
- ตักน้ำแข็งใส่แก้ว เทโอเลี้ยงลงไป
- แล้วราดด้วยนมข้นจืดด้านบน
3. สูตรจ้ำบ๊ะ
ส่วนผสม- ผงกาแฟโบราณ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 180 มิลลิลิตร
- น้ำหวานสีแดง 4 ช้อนชา
- น้ำแข็ง
วิธีทำ
- ตักผงกาแฟใส่ถุงกรอง เทน้ำร้อนลงไป
- แล้วให้เทน้ำกาแฟผ่านถุงกรองแช่ 2 นาที
- แล้วเทสลับไปมา 3-4 รอบ เพื่อกลิ่นหอมและรสชาติที่เข้ม
- เมื่อได้กาแฟดำแล้วให้เติมน้ำตาลทราย แล้วคนให้ละลายเข้ากัน
- เทน้ำหวานลงในแก้ว ตักน้ำแข็งใส่แก้วตามลงไป
- แล้วเทโอเลี้ยงราดลงด้านบน
4. สูตรโอยัวะ
ส่วนผสม- ผงกาแฟ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 3/4 แก้ว
วิธีทำ
- ใส่น้ำตาลทรายลงในแก้ว ตามด้วยผงกาแฟ และน้ำร้อน คนผสมให้เข้ากัน
- เทใส่แก้ว พร้อมเสิร์ฟ
5. กาแฟโบราณสูตรดั้งเดิม
ส่วนผสม- ผงโอเลี้ยง 5-6 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
- นมข้นหวาน 9 ช้อนโต๊ะ
- นมข้นจืด
- น้ำแข็ง
วิธีทำ
- ต้มน้ำจนเดือด เตรียมไว้
- ใส่ผงโอเลี้ยงลงในถุงกาแฟ นำไปวางลงในเหยือกสเตนเลสแล้วเทน้ำเดือดลงไป เขย่าถุงเล็กน้อยให้น้ำทั่วถึงกาแฟ พักทิ้งไว้ 10 นาที
- ใส่น้ำตาลทรายลงในแก้ว ตามด้วยนมข้นหวาน เทส่วนผสมกาแฟใส่ลงไป คนผสมให้เข้ากันจนน้ำตาลทรายละลาย
- เทใส่ลงในแก้วที่มีน้ำแข็งประมาณ 3/4 แก้ว แล้วเทนมข้นจืดลงไปจนเต็มแก้ว พร้อมเสิร์ฟ
6. สูตรหน่อบี่
ส่วนผสมชาไทย- ผงชาไทย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 100 มิลลิลิตร
- นมข้นหวาน 50 มิลลิลิตร
- นมข้นจืด 60 มิลลิลิตร
ส่วนผสมกาแฟ
- ผงกาแฟ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 3/4 แก้ว
- น้ำแข็ง
วิธีทำ
- ชงชาไทยและกาแฟตามสูตร
- เทชาไทยใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง
- เทกาแฟตามลงไปด้านบน
- ราดด้วยนมข้นจืดที่เตรียมไว้
- แล้วเทสลับไปมา 3-4 รอบ เพื่อกลิ่นหอมและรสชาติที่เข้มข้น
- พร้อมเสิร์ฟ
7. สูตรโกปี๊
ส่วนผสม
- ผงกาแฟโบราณ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 180 มิลลิลิตร
- นมข้นหวาน 5 ช้อนชา
วิธีทำ
- ตักผงกาแฟใส่ถุงกรอง เทน้ำร้อนลงไป
- แล้วให้เทน้ำกาแฟผ่านถุงกรองแช่ 2 นาที
- แล้วเทสลับไปมา 3-4 รอบ เพื่อกลิ่นหอมและรสชาติที่เข้ม
- เทนมข้นหวานใส่แก้ว
- แล้วเทกาแฟดำตามลงไป
กาแฟโบราณ ผสานระหว่างความดั้งเดิมและนวัตกรรมเพื่อสร้างเมนูใหม่ ๆ ที่ดึงดูดใจ
กาแฟโบราณเป็นเครื่องดื่มที่คนไทยคุ้นเคยและชื่นชอบ ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และราคาที่จับต้องได้ แม้จะเป็นเมนูคลาสสิกแต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนและสร้างสรรค์ได้หลากหลายเมนู เช่น การนำสูตรกาแฟโบราณดั้งเดิมมาประยุกต์ใช้ หรือคิดค้นเมนูใหม่ ๆ ที่ผสมผสานวัตถุดิบที่หลากหลายเพื่อสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น หรือจะการผสานความดั้งเดิมกับกาแฟโบราณ ปรับสูตรเข้ากับเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ ก็ดูเป็นไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อย
ยกระดับกาแฟโบราณด้วยเครื่องชงกาแฟ Beno ชงกาแฟได้หลากหลายแบบ ทั้งเอสเปรสโซ่ คาปูชิโน่ อเมริกา หรือลาเต้ แถมยังปรับตั้งอุณหภูมิและระดับน้ำได้ตามใจชอบ ครบฟังก์ชันสำหรับบาริสต้ามืออาชีพ ไปสนุกกับการสร้างสรรค์กาแฟสูตรใหม่ ๆ ได้ทุกวัน พร้อมส่วนลดเต็ม ๆ 200 บาท เมื่อใช้โค้ด BENOA200 ที่ Shopee Thailand