อเมริกาโน่

อเมริกาโน่ เมนูกาแฟที่ใคร ๆ ก็ชอบ พร้อมสูตรการทำเป็นเครื่องดื่มประจำบ้าน

Oct 23, 2023Beno smartliving

อเมริกาโน่ เป็นอีกหนึ่งเมนูกาแฟที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่ชอบกาแฟเข้ม ๆ แบบไม่ใส่นม เพื่อเน้นรสชาติของเมล็ดกาแฟได้อย่างเต็มที่ ซึ่งกาแฟอเมริกาโน่ ก็ถือเป็นกาแฟดำชนิดหนึ่ง ในบทความนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับอเมริกาโน่ มีที่มาอย่างไร พร้อมสูตรการทำอเมริกาโน่ที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน 

 

อเมริกาโน่ คืออะไร

กาแฟอเมริกาโน่ เป็นเมนูกาแฟที่ได้รับความนิยมสูงในทั่วโลก ซึ่งสิ่งที่ทำให้อเมริกาโน่แตกต่างจากกาแฟดำอื่น ๆ หรือเอสเปรสโซ่ก็คือ การนำช็อตเอสเปรสโซ่ผสมน้ำร้อนในสัดส่วนที่แตกต่างกันไปแล้วแต่สูตรของร้าน หรือตามความชอบ เช่น กาแฟเอสเปรสโซ่ 1 ช็อต น้ำร้อน 1 ช็อต ทั้งนี้ในต่างประเทศยังมีเมนูกาแฟอีกชนิดที่มีความคล้ายคลึงกับอเมริกาโน่ แต่ต่างกันคือจะใส่น้ำร้อนลงไปก่อนที่จะใส่ช็อตเอสเปรซโซ่ลงไป เรียกเมนูนี้ว่า ลองแบล็ก (Long Black) นั่นเอง 

 

อเมริกาโน่กับประโยชน์ที่หลายคนไม่รู้

 

อเมริกาโน่ ประโยชน์

 

1. คาเฟอีนช่วยกระตุ้นสมองและเพิ่มสมาธิ

คาเฟอีนในอเมริกาโน่ช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้รู้สึกตื่นตัว ลดความง่วง และโฟกัสได้ดีขึ้น ปริมาณคาเฟอีนในอเมริกาโน่ 1 แก้ว (ชงจากเอสเปรสโซ่ 2 ช็อต) ประมาณ 150–180 มก. ซึ่งเพียงพอให้ตื่นแต่ไม่มากเกินไปสำหรับคนทั่วไป

2. แคลอรีต่ำมาก

ถ้าไม่ใส่น้ำตาล นม หรือไซรัป อเมริกาโน่ 1 แก้ว (ประมาณ 240 มล.) ให้พลังงานเพียง 2–5 แคลอรี เท่านั้น เหมาะกับคนลดน้ำหนักหรือสายเฮลตี้ เพราะได้ความหอมของกาแฟโดยไม่พ่วงน้ำตาล

3. อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

กาแฟอุดมไปด้วยสารโพลีฟีนอลและคลอโรเจนิกแอซิด ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย แถมยังช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย 

4. ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย

ทั้งคาเฟอีนและน้ำอุ่นจากอเมริกาโน่ช่วยให้ลำไส้เคลื่อนไหวดีขึ้น หลายคนจึงรู้สึกว่าขับถ่ายง่ายหลังดื่มกาแฟ อย่างไรก็ตาม ผลนี้อาจไม่เกิดกับทุกคน และบางคนถ้าดื่มมากเกินไปอาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะได้

5. ดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด (ถ้าดื่มพอดี)

คาเฟอีนและสารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟอาจช่วยลดการอักเสบ ปรับสมดุลไขมันในเลือด และทำให้การทำงานของหลอดเลือดดีขึ้น แต่ต้องเน้นว่า “ดื่มพอดี” เพราะถ้าเกินไปอาจเพิ่มความดันและหัวใจเต้นเร็วได้

6. ช่วยลดความเสี่ยงของโรคบางชนิด

มีงานวิจัยบางชิ้นชี้ว่าการดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะสัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 2, โรคพาร์กินสัน และโรคตับบางชนิด


ข้อควรระวัง

  • ไม่ควรดื่มเกิน 3-4 แก้วต่อวัน (คาเฟอีนไม่เกิน 400 มก.)

  • ดื่มมากเกินไปอาจทำให้หัวใจเต้นเร็ว มือสั่น หรือมีปัญหาการนอน

  • หลีกเลี่ยงการดื่มก่อนนอน 6 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้รบกวนการนอน

  • ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะหรือกรดไหลย้อนควรดื่มหลังอาหารและไม่เข้มเกินไป

 

 

สูตรอเมริกาโน่

1. สูตรอเมริกาโน่ร้อน

ส่วนผสม

  • กาแฟเอสเปรสโซ่ 30 มิลลิลิตร (1 ช็อต) หรือ 60 มิลลิลิตร (2 ช็อต) หากต้องการรสชาติเข้มข้น 
  • น้ำร้อน 120 มิลลิลิตร 

วิธีทำ

  • เริ่มต้นด้วยการเมล็ดกาแฟคั่วแล้ว มาบดด้วยเครื่องบดเมล็ดกาแฟ
  • ใส่ลงในเครื่องชงกาแฟแบบเอสเปลสโซ่ 
  • เมื่อได้ช็อตกาแฟเอสเปลสโซ่ออกมาแล้ว ให้ผสมเข้ากับน้ำร้อน
  • เติมน้ำเชื่อมตามชอบลงในอเมริกาโน่หรือไม่เติมก็ได้

 

สูตรอเมริกาโน่

 

2. สูตรอเมริกาโน่เย็น

ส่วนผสม

  • กาแฟเอสเปรสโซ่ 60 มิลลิลิตร (2 ช็อต) 
  • น้ำดื่มอุณหภูมิห้อง 120 มิลลิลิตร 
  • น้ำเชื่อมตามชอบ

วิธีทำ

  • ทำช็อตเอสเปลสโซ่ด้วยเครื่องทำกาแฟ 
  • เมื่อได้ช็อตกาแฟเอสเปลสโซ่ออกมาแล้ว ให้ผสมเข้ากับน้ำเปล่า
  • เติมน้ำเชื่อมตามชอบลงในอเมริกาโน่ 
  • เทใส่ลงในแก้วน้ำแข็ง

 

เครื่องชงกาแฟอเมริกาโน่


3. สูตรอเมริกาโน่ส้ม 

ส่วนผสม

  • กาแฟเอสเปรสโซ่ 60 มิลลิลิตร (2 ช็อต) 
  • น้ำส้มคั้นสดหรือน้ำส้มกล่องตามชอบ
  • น้ำแข็ง

วิธีทำ

  • ทำช็อตเอสเปลสโซ่ด้วยเครื่องทำกาแฟ 
  • จากนั้นให้เทน้ำส้มใส่แก้ว และตามด้วยน้ำแข็ง
  • เทช็อตเอสเปลสโซ่ตามลงไป 

 

เครื่องทำอเมริกาโน่

 

4.สูตรอเมริกาโน่น้ำผึ้ง

ส่วนผสม

  • กาแฟเอสเปรสโซ่ 30 มิลลิลิตร (1 ช็อต) หรือ 60 มิลลิลิตร (2 ช็อต) หากต้องการรสชาติเข้มข้น
  • น้ำผึ้งตามชอบ
  • น้ำเปล่า

วิธีทำ

  • ทำช็อตเอสเปลสโซ่ด้วยเครื่องทำกาแฟ 
  • ใส่น้ำผึ้งลงไปผสมกับกาแฟ 
  • หลังจากนั้นจึงเติมน้ำเปล่าไปผสม และเทใส่แก้ว 


อเมริกาโน่ ใช้กาแฟคั่วระดับไหน

ถ้าพูดถึงตัวเลือกที่ดีที่สุด กาแฟคั่วระดับกลาง (Medium Roast) คือระดับการคั่วลงตัวที่สุดสำหรับคนส่วนใหญ่ เพราะให้รสชาติที่กลมกล่อม มีความหวานบาง ๆ และมีรสเปรี้ยวที่ซับซ้อนแต่ไม่โดดเด่นจนเกินไป ทำให้ดื่มง่าย เข้าถึงได้ทุกคน อย่างไรก็ตาม ในวงการกาแฟสเปเชียลตี้ที่กำลังเติบโตอย่างกว้างขวาง หลายคนก็เริ่มหันมานิยมกาแฟคั่วอ่อน เพื่อทำอเมริกาโน่มากขึ้น เนื่องจากกาแฟคั่วอ่อนจะดึงเอารสชาติและกลิ่นของผลไม้ (Fruity) และดอกไม้ (Floral) ที่ซ่อนอยู่ในเมล็ดกาแฟออกมาได้อย่างเต็มที่

อเมริกาโน่ ปั่นได้ไหม

แม้ว่าเรามักจะไม่ค่อยเห็นเมนูอเมริกาโน่นำมาทำเป็นเมนูปั่น แต่เนื่องจากเมืองไทยอากาศร้อน หลายคนจึงนำกาแฟอเมริกาโน่มาปั่นเพื่อดื่มให้สดชื่นยิ่งขึ้น แต่ส่วนใหญ่จะไม่มีเมนูนี้ในร้านกาแฟ สามารถทำเองได้ โดยอาจจะเพิ่มน้ำเชื่อมเข้าไปเพื่อให้ได้รสชาติยิ่งขึ้น

 

อเมริกาโน่กับกาแฟดำต่างกันยังไง

กาแฟทั้งสองแบบมีความคล้ายคลึงกัน โดยกาแฟอเมริกาโน่จะเป็นการสกัดกาแฟให้เป็นช็อตเอสเปรสโซ่ด้วยเครื่องทำกาแฟแบบเอสเปรสโซ่ ส่วนกาแฟดำจะสกัดกาแฟด้วยการใช้ที่กรองแบบอื่น ๆ แทน  

 

เมล็ดกาแฟ

 

อเมริกาโน่ควรใช้เมล็ดกาแฟแบบไหน

สำหรับกาแฟอเมริกาโน่ มักจะใช้เมล็กกาแฟคั่วเข้ม หรือที่เรียกว่า Dark coffee ซึ่งจะใช้รสชาติขม และมีกลิ่นหอมจากการคั่ว เป็นเมล็ดแบบเดียวกับที่ใช้ในกาแฟเอสเปรสโซ่ 


อเมริกาโน่ เมนูยอดฮิตของเหล่าคอกาแฟ

ถ้าพูดถึงกาแฟดำที่ทั้งเรียบง่ายและคลาสสิกที่สุด อเมริกาโน่คงติดอันดับต้น ๆ ในใจหลายคน จุดเด่นคือรสชาติกาแฟแท้ ๆ แบบไม่ปรุงแต่ง ดื่มแล้วได้ทั้งความหอม ความเข้ม และประโยชน์ต่อสุขภาพในเวลาเดียวกัน ทั้งคาเฟอีนที่ช่วยปลุกสมองให้ตื่นตัว สารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อร่างกาย ไปจนถึงแคลอรีต่ำจนแทบไม่กระทบกับการควบคุมน้ำหนัก เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสรสชาติที่แตกต่างของเมล็ดกาแฟในแต่ละแหล่งปลูก เพราะอเมริกาโน่คือวิธีดื่มที่เปิดโอกาสให้คุณลิ้มรส “คาแรกเตอร์แท้ ๆ” ของกาแฟได้ชัดเจนที่สุด และยังสามารถทำดื่มเองได้ง่าย ๆ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เยอะ เพียงแค่มีเอสเปรสโซ่หรือการชงแบบดริปก็พร้อมเติมความสดชื่นให้ตัวเองได้แล้ว หรือถ้าใครไม่มีเวลา Beno Thailand ก็มี Coffee Drip Bag ที่สะดวกแต่ยังคงคุณภาพเหมือนดื่มอเมริกาโน่สดใหม่ มีให้เลือกหลายรสชาติ ตอบโจทย์ทั้งคนที่รักความคลาสสิกและคนที่อยากค้นหารสชาติใหม่ ๆ ในทุกแก้วที่ดื่ม

 

เครื่องชงกาแฟ


More articles