กาแฟลาว รสเข้มเต็มคำที่คอกาแฟต้องยกนิ้วให้!

ถ้าจะให้พูดถึงกาแฟในแถบบ้านเรา หลายคนอาจนึกถึงกาแฟไทย หรือกาแฟเวียดนามเป็นอันดับแรก ๆ แต่อีกหนึ่งกาแฟที่มาแรงไม่แพ้กัน และน่าจับตามองในวงการกาแฟก็คือ “กาแฟลาว” ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่มาพร้อมกับเรื่องราวที่น่าสนใจไม่น้อย วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกความเป็นมาของกาแฟลาว มีแหล่งปลูกที่ไหน สายพันธุ์ที่นิยมปลูก ความแตกต่างระหว่างกาแฟลาวกับกาแฟไทย รวมถึงแนะนำกาแฟลาว ยี่ห้อไหนดีที่น่าลอง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย! 

 

เจาะลึกกาแฟลาว คืออะไร ? กาแฟที่ไม่ได้มีดีแค่รสชาติ

กาแฟลาว คือกาแฟที่ปลูกและผลิตในประเทศลาว ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเพาะปลูกกาแฟสูงเป็นอันดับต้น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลย เพราะมีภูมิประเทศเป็นภูเขาสูง อากาศเย็น พร้อมกับดินและน้ำที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้เมล็ดกาแฟลาวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นทั้งกลิ่นหอมละมุน รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากาแฟลาวเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟคั่วบด เมล็ดดิบ หรือกาแฟสำเร็จรูป ที่ใครได้ลองแล้วรับรองว่าจะต้องติดใจ

รู้จักแหล่งปลูก‘กาแฟลาว’ที่ดีที่สุดในประเทศ

 

 

หนึ่งในพื้นที่ปลูกกาแฟที่มีชื่อเสียงที่สุดของลาวก็คือ ที่ราบสูงโบลาเวน (Bolaven Plateau) ที่อยู่ทางใต้ของประเทศ และที่นี่ยังเป็นดินภูเขาไฟเก่าที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุธรรมชาติ แถมมีความสูงจากระดับน้ำทะเลที่กำลังดีราว ๆ 800 -1,350 เมตร อากาศก็เย็นสบายตลอดปี เหมาะแก่การปลูกกาแฟมาก ๆ และต้นกาแฟที่ปลูกที่นี่เติบโตได้ดี เมล็ดกาแฟรสชาติเข้มข้น และมีกลิ่นหอม ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่ราบสูงโบลาเวนถึงได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของการปลูกกาแฟชั้นดีในลาว

 

กาแฟลาวมีกี่สายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์มีความพิเศษอย่างไร

กาแฟลาวมีสายพันธุ์หลัก ๆ ที่ปลูกอยู่ประมาณ 2 สายพันธุ์ คือ อาราบิก้า (Arabica) และ โรบัสต้า (Robusta) ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็มีจุดเด่นและรสชาติที่แตกต่างกัน

• อาราบิก้า (Arabica) : สายพันธุ์ที่นิยมปลูกกันเยอะสุดเลย คิดเป็นประมาณ 80% ของกาแฟที่ปลูกในประเทศ อาราบิก้าปลูกได้ดีในที่ราบสูงโบลาเวนที่มีอากาศเย็น และดินอุดมสมบูรณ์ สายพันธุ์นี้ถือเป็นสายพันธุ์ที่หลายคนชอบ รสชาติจะนุ่ม มีความเปรี้ยวอมหวาน กลิ่นหอมฟลอรัลและผลไม้เบา ๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบกาแฟรสชาติซับซ้อน และดื่มง่าย

• โรบัสต้า (Robusta) : สายพันธุ์นี้จะทนทานต่อสภาพอากาศร้อนและโรคได้ดี โตง่ายกว่า รสชาติกาแฟโรบัสต้าลาวจะเข้มข้น และมีบอดี้ที่หนักแน่นกว่า มีคาเฟอีนสูง และมีรสชาติออกแนวช็อกโกแลตหรือถั่ว เหมาะกับคนที่ชอบกาแฟแบบเข้ม ๆ

นอกจากสายพันธุ์หลักทั้งสองนี้ บางพื้นที่ในลาวยังมีการทดลองปลูกสายพันธุ์อื่น ๆ หรือลองพัฒนาสายพันธุ์เฉพาะถิ่น เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กาแฟลาวมากขึ้น 

 

กาแฟลาว vs กาแฟไทย เหมือนหรือต่างกันแค่ไหน

 

 

เชื่อว่าหลายคนสงสัยว่ากาแฟลาว กับกาแฟไทยต่างกันยังไง เพราะสองประเทศต่างก็มีภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เหมาะกับการปลูกกาแฟเหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้ว กาแฟแต่ละที่ก็มีเสน่ห์ไม่เหมือนกันเลย มาดูกันว่ากาแฟลาวกับกาแฟไทย แตกต่างกันตรงไหนบ้าง

แหล่งเพาะปลูก  

• กาแฟลาว : ปลูกอยู่ในพื้นที่ราบสูงโบลาเวนทางตอนใต้ของลาว มีอากาศเย็น ดินภูเขาไฟอุดมสมบูรณ์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการปลูกกาแฟ

• กาแฟไทย : ปลูกในพื้นที่ภาคเหนือ เช่น เชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน เป็นภูเขาสูงเช่นกัน แต่อาจมีความหลากหลายของดินและสภาพอากาศมากกว่า

สายพันธุ์กาแฟ

• กาแฟลาว : นิยมปลูกอาราบิก้า และโรบัสต้า โดยเฉพาะกาแฟอาราบิก้าจากโบลาเวนที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ มีโทนกลิ่นผลไม้ ดอกไม้ และรสชาติซับซ้อน

• กาแฟไทย : มีทั้งอาราบิก้าและโรบัสต้าเช่นกัน และยังมีการพัฒนาสายพันธุ์เฉพาะถิ่นให้ตอบโจทย์ตลาด Specialty มากขึ้น

กลิ่นและรสชาติ

• กาแฟลาว : รสชาติเข้มข้น หอมชัด มีกลิ่นดินหรือฟลอรัลอ่อน ๆ รสชาติค่อนข้างลึกปลายลิ้นจะมีรสเปรี้ยวนิด ๆ 

• กาแฟไทย : มีรสชาติที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับพื้นที่ปลูก บางพื้นที่จะนุ่มละมุน ออกแนวหอมหวาน รสชาติซอฟต์กว่า หรือมีโทนเปรี้ยวเล็กน้อยแบบ Specialty Coffee

การผลิตและวิถีชุมชน

• กาแฟลาว : ส่วนใหญ่ยังใช้วิธีการปลูกและเก็บเกี่ยวแบบดั้งเดิมโดยชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมกับการผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการผลิต และรักษาคุณภาพ

• กาแฟไทย : มีการพัฒนาและส่งเสริมการปลูกอย่างเป็นระบบมากขึ้น โครงการสนับสนุนจากรัฐและเอกชน ในการยกระดับคุณภาพ และการตลาด 

 

กาแฟลาวโกอินเตอร์! ดังไกลในประเทศไหนบ้าง

กาแฟลาวส่วนใหญ่ส่งออกไปยังประเทศเวียดนาม กับไทยเรา ถือเป็นตลาดใหญ่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ความพิเศษไม่ได้มีแค่นั้น เพราะกาแฟลาวยังเริ่มโกอินเตอร์ไปไกลถึงตลาดยุโรป และอเมริกาด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกาแฟออร์แกนิกของลาวที่กำลังมาแรง เพราะได้ชื่อว่าเป็นกาแฟคุณภาพดีที่ปลูกแบบธรรมชาติ ปลอดภัยต่อสุขภาพ แถมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

 

5 กาแฟลาว ยี่ห้อไหนดีที่ต้องลอง! คัดมาแล้วว่าเด็ดจริง

 

 

1. Dao Coffee

Dao Coffee หรือกาแฟดาว ประเทศลาว คือแบรนด์กาแฟที่ใหญ่ที่สุด และเป็นที่รู้จักมากที่สุด ทั้งในลาวและต่างประเทศ ด้วยมาตรฐานการผลิตที่ทันสมัย มีการควบคุมคุณภาพอย่างดี และกาแฟดาวมีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ทั้งเมล็ดกาแฟคั่ว กาแฟสำเร็จรูป และกาแฟ 3in1 จุดเด่นอยู่ที่รสชาติที่กลมกล่อม หอมละมุน และบอดี้กำลังดี ไม่เข้มหรืออ่อนจนเกินไป ทำให้ดื่มง่าย ใครที่อยากดื่มกาแฟลาวหรือชอบรสชาติแบบคลาสสิกต้องลองแบรนด์นี้เลย

2. Sinouk Coffee

Sinouk Coffee ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์กาแฟลาว ที่ดังและเป็นที่ยอมรับระดับโลก ก่อตั้งโดยคุณสีหนุก สีสมบัด ซึ่งถือเป็นคนบุกเบิกวงการกาแฟออร์แกนิกของลาวเลย แบรนด์นี้เน้นความเป็น Specialty Coffee ใส่ใจเรื่องคุณภาพเมล็ดกาแฟ และการแปรรูปมาก ๆ มีทั้งกาแฟอาราบิก้า โรบัสต้า รวมถึงกาแฟออร์แกนิก โดยจุดเด่นของ Sinouk Coffee คือรสชาติที่ซับซ้อน กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถือเป็นแบรนด์กาแฟลาวแบบพรีเมียม ที่มีสตอรี่พร้อมกับคุณภาพคับแก้ว 

3. Paksong Laos

Paksong Laos Coffee เป็นแบรนด์กาแฟลาว ที่มาจากอำเภอปากซองเป็นเหมือนศูนย์กลางของแหล่งปลูกกาแฟจากที่ราบสูงโบลาเวน แบรนด์นี้เน้นความบริสุทธิ์ของกาแฟจากแหล่งกำเนิด ส่วนใหญ่จะเป็นกาแฟจากกลุ่มเกษตรกรตัวเล็ก ๆ ที่ดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปลูกไปจนถึงการเก็บเกี่ยวและแปรรูป ทำให้ได้กาแฟที่มีรสชาติเข้มข้น หอมแน่น และ Paksong Espresso Blend ก็เป็นกาแฟเข้ม ๆ ที่ให้ความรู้สึกพรีเมียม

4. Lao Mountain Coffee

อีกหนึ่งแบรนด์ที่เน้นกาแฟลาวแบบออร์แกนิก และยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาแบบยั่งยืนให้กับเกษตรกรในลาวอย่าง Lao Mountain Coffee ที่มีการปลูกแบบธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี ทำให้ได้เมล็ดกาแฟคุณภาพดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Lao Mountain Coffee มีผลิตภัณฑ์หลักเป็นเมล็ดกาแฟคั่ว หลากหลายเบลนด์และสายพันธุ์ มาพร้อมกลิ่นที่หอมสดชื่น มีมิติของกลิ่นโทนผลไม้ หรือฟอรัลบาง ๆ 

5. Phou Phieng Coffee

มาต่อกันที่ Phou Phieng Coffee อีกหนึ่งแบรนด์กาแฟลาวที่น่าสนใจ มักเน้นกาแฟที่มีคาแรคเตอร์โดดเด่น รสชาติเข้มข้น และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีการดูแลเอาใจใส่ในทุกขั้นตอนการผลิตอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ ไปจนถึงกระบวนการคั่วที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ อีกทั้งกาแฟลาวจาก Phou Phieng Coffee ยังมีผลิตภัณฑ์หลักเป็นกาแฟคั่วบดพิเศษ ที่พร้อมสำหรับการชงหลากหลายวิธี ทำให้เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ดีสำหรับคนที่ต้องการสัมผัสรสชาติกาแฟลาวที่แท้จริง 

 

ดื่มด่ำกาแฟลาวให้อร่อยแบบมือโปร ด้วยเครื่องชงกาแฟจาก Beno 

สัมผัสรสชาติกาแฟลาวที่เข้มข้ม กลมกล่อม หอมละมุนแบบที่คอกาแฟหลายคนหลงรัก จากแหล่งปลูกที่ดีที่สุดในประเทศบนที่ราบสูงโบลาเวน อยากชงดื่มเองที่บ้านให้อร่อยเหมือนอยู่คาเฟ่ ก็ง่ายแสนง่าย ถ้ามีตัวช่วยดี ๆ อย่างเครื่องชงกาแฟจาก Beno ไม่ว่าจะสายดริป หรือสายไหนก็มีให้เลือกครบ ใช้งานง่าย แถมให้ผลลัพธ์แบบระดับมือโปร คอกาแฟสามารถช้อปสินค้า Beno ได้สะดวกผ่าน Shopee Thailand พร้อมรับส่วนลดพิเศษ 200 บาท เมื่อใช้โค้ด BENOA200 เท่านั้น! ไม่ว่าใครก็สามารถยกระดับกาแฟลาวทุกแก้วให้พิเศษกว่าที่เคย ด้วยคุณภาพที่ไว้ใจได้จาก Beno!