กาแฟ Lungo คือ การตีความรสชาติของเอสเปรสโซ่ให้ออกมาในรูปแบบใหม่ ด้วยการดึงเอาความเข้มข้นของเอสเปรสโซ่ออกมาผสมผสานกับความนุ่มลึกที่เกิดจากการสกัดที่ยาวนานขึ้น ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมและลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ อะไรที่ทำให้ Lungo แตกต่างจากกาแฟอื่น ๆ และน่าค้นหา วันนี้จะพาทุกคนไปสำรวจโลกของกาแฟ Lungo ว่าเสน่ห์แบบไหนที่ทำให้คอกาแฟหลงรัก
กาแฟ Lungo คืออะไร?
กาแฟ Lungo (อ่านว่า ลุง-โก้) คือ กาแฟสไตล์อิตาลีที่ได้จากการชงเอสเปรสโซ่ โดยบาริสต้าทดลองชงกาแฟเอสเปรสโซ่ด้วยวิธีการสกัดนานกว่าปกติ และเพิ่มปริมาณน้ำที่ใช้ในการสกัด ทำให้ได้กาแฟที่มีปริมาณมากกว่าเอสเปรสโซ่ทั่วไป รสชาติของ Lungo จะอ่อนกว่าเอสเปรสโซ่ เนื่องจากความเข้มข้นของกาแฟลดลง แต่ยังคงมีกลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
จุดกำเนิดของกาแฟ Lungo
กาแฟ Lungo ผู้เชี่ยวชาญคาดว่ามีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 โดยชื่อของ Lungo มาจากภาษาอิตาลีที่แปลว่า "ยาว" ซึ่งสื่อถึงกระบวนการชงที่ใช้เวลานานกว่า เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นแบบนุ่มลึก เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟรสชาติอ่อนนุ่ม กลิ่นหอมละมุน จึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในยุโรป และค่อย ๆ ขยายไปทั่วโลก ในบางประเทศยังมีการเสิร์ฟ Lungo พร้อมน้ำผึ้งเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความหวานและกลิ่นหอม ทำให้กาแฟ Lungo กลายเป็นอีกหนึ่งสไตล์กาแฟที่ได้รับการยอมรับและชื่นชอบไปทั่วโลกเลย
Lungo vs Americano vs Long Black ต่างกันอย่างไร
กาแฟ Lungo, Americano, และ Long Black นั้นเป็นกาแฟดำที่หลายคนอาจเข้าใจว่าเหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วมีความแตกต่างกันในรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
ต้นกำเนิด
- Lungo: อิตาลี
- Americano: อเมริกา
- Long Black: ออสเตรเลีย
วิธีการชง
- Lungo: สกัดเอสเปรสโซ่ช็อตให้ยาวนานกว่าปกติ
- Americano: สกัดช็อตเอสเปรสโซ่ลงในแก้วเสิร์ฟก่อน แล้วจึงใส่น้ำตามลงไป ซึ่งจะเหลือเพียงครีม่าบาง ๆ ตรงขอบแก้ว
- Long Black: เติมน้ำร้อนก่อน แล้วเทเอสเปรสโซ่ช็อตลงไป โดยที่เอสเปรสโซ่จะลอยอยู่ด้านบน ทำให้ได้ชั้นครีม่าที่ชัดเจน
ปริมาณครีม่า
- Lungo: มีชั้นครีม่าที่หนานุ่ม
- Americano: ครีม่าบาง ๆ หรือแทบไม่มีเลย
- Long Black: ชั้นครีม่าน้อยกว่ากาแฟ Lungo แต่ยังมีความหนานุ่มมากกว่าอเมริกาโน
รสชาติกาแฟ
- Lungo: มีรสชาติเข้มข้นกว่าอเมริกาโน แต่ไม่เข้มข้นเท่าเอสเปรสโซ่
- Americano: รสชาติอ่อนกว่า Lungo มีความขมน้อยลง และมีกลิ่นหอมของกาแฟคั่ว
- Long Black: รสชาติเข้มข้นกว่าอเมริกาโน แต่รสจะเบากว่า Lungo
เหมาะสำหรับ
- Lungo: ผู้ชอบกาแฟรสเข้มข้น
- Americano: ผู้ชอบกาแฟรสอ่อน
- Long Black: ผู้ชอบกาแฟดำรสเข้มข้น และต้องการสัมผัสชั้นครีม่าของเอสเปรสโซ่
เมล็ดกาแฟคั่วที่เหมาะกับ Lungo
อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าการชง Lungo นั้นต่างจากเอสเปรสโซ่ตรงที่เราจะใช้เวลาในการชงนานขึ้น ด้วยกระบวนการที่ทำให้กาแฟสัมผัสกับน้ำร้อนนานขึ้น จึงทำให้กาแฟประเภทนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าจะมีรสชมกว่ากาแฟชนิดอื่น ๆ หากใช้เมล็ดกาแฟคั่วเข้มที่มีรสชาติขมอยู่แล้ว เมื่อผ่านกระบวนการคั่วแบบ Lungo ที่ช้าและสกัดนาน ก็จะทำให้รสชาติที่ออกมาขมมากขึ้นได้ ดังนั้นการเลือกเมล็ดกาแฟคั่วอ่อนจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด นอกจากนี้ การเลือกเมล็ดกาแฟไม่ว่าจะเป็นเมล็ดกาแฟโรบัสตาหรืออาราบิกา ก็สามารถเลือกได้ตามความชอบ ไม่มีกำหนดว่าอะไรดีกว่ากัน เพราะสุดท้ายแล้วการดื่มกาแฟก็เป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญของการทำกาแฟ Lungo คือ วิธีการบดกาแฟ และการควบคุมเวลา โดยเราควรบดกาแฟให้หยาบกว่าปกตินิดหน่อย เพื่อให้น้ำไหลผ่านกากกาแฟได้ง่ายขึ้น และช่วยลดความขมได้ด้วย ส่วนเรื่องเวลาในการชง Lungo ที่เหมาะสมคือประมาณ 30-40 วินาที หากชงนานเกินไป รสชาติจะออกขมได้
สูตรการทำกาแฟ Lungo Coffee
อุปกรณ์และส่วนผสม
- เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ รุ่น MC2 PLUS
- แคปซูลกาแฟ / กาแฟบด (แนะนำคั่วอ่อน)
วิธีทำ Lungo Coffee
- เลือกการชงกาแฟที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น กาแฟพอด / แคปซูลกาแฟยี่ห้อ Nespresso / แคปซูลกาแฟ Dolce-Gusto หรือกาแฟแคปซูลยี่ห้ออื่น ๆ ที่มีขนาดเท่ากัน ในกรณีที่ใช้กาแฟบด ต้องบดให้หยาบกว่าเอสเปรสโซ่เล็กน้อย
- เติมน้ำที่หลังเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ รุ่น MC2 PLUS ที่มีแรงดันน้ำจากปั๊ม 19 บาร์ (ULKA Pump จากประเทศอิตาลี) เทียบเท่ากับเครื่องชงกาแฟมืออาชีพ
- จากนั้นกดเปิดเครื่อง แล้วเลือกระดับน้ำ 4 เป็นระดับที่แนะนำในการชงกาแฟ Lungo (ตัวเครื่องกาแฟอัตโนมัติรุ่นนี้สามารถเลือกระดับน้ำได้ถึง 7 ระดับ)
- วางแก้ว แล้วกดปุ่มสกัดกาแฟ รอเพียงไม่กี่วินาที ก็จะได้กาแฟ Lungo ที่หอมเข้มข้น ครีม่าแน่น
ข้อแนะนำ: แม้ว่า Lungo จะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และมักจะนิยมดื่มแบบเพียว ๆ มากกว่า แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนรสชาติได้ตามความชอบ โดยการเลือกเมล็ดกาแฟที่แตกต่างกัน หรือสามารถใช้ Lungo เป็นเบสของลาเต้ เพื่อสร้างสรรค์เป็นเมนูใหม่ ๆ ได้อีกมากมาย
สัมผัสรสชาติของกาแฟ Lungo ได้ง่าย ๆ ทุกวัน ด้วยเครื่องชงกาแฟ Beno
สูตรที่เราแนะนำไปนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่อยากลองชง Lungo แบบง่าย ๆ ที่บ้าน โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการบดหรือเวลาในการสกัด แต่สำหรับบาริสต้ามืออาชีพที่ต้องการควบคุมรสชาติได้อย่างละเอียด เครื่องชงกาแฟ Beno รุ่น PRO-FLEX ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลย เพราะมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การชง Lungo ได้อย่างครบครัน หากชำนาญแล้ว ก็สามารถนำไปสร้างสรรค์เป็นเมนูใหม่ ๆ ได้อีกมากมาย
เริ่มต้นได้ง่าย ๆ กับ Beno เครื่องชงกาแฟสุดคุ้ม ลดราคาพิเศษ 200 บาท เมื่อใช้โค้ด BENOA200 ที่ Shopee สร้างสรรค์กาแฟหลากหลายเมนูได้เองง่าย ๆ ทำความสะอาดง่าย ใช้งานสะดวก รีบเลย!