“กาแฟดำขม ๆ เจอกับนมข้นหวานมัน ๆ” กลายเป็นกาแฟ Dirty ที่อร่อยลงตัว แถมยังเป็นเมนูกาแฟที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 2-3 ปีนี้ ร้านกาแฟหลายร้านเริ่มใช้เมนูกาแฟเดอตี้เป็นเมนูแนะนำ คอกาแฟจึงมักจะเห็นเมนูกาแฟนี้ในร้านกาแฟหลายต่อหลายแห่ง โดยเฉพาะร้านกาแฟ Specialty หลายคนอาจสงสัยว่ากาแฟ Dirty คืออะไร? วิธีการชงกาแฟเดอตี้ต่างจากกาแฟทั่วไปอย่างไร? ทำไมจึงได้รับความนิยม? วันนี้ไปหาคำตอบกัน!
Dirty คือกาแฟอะไร ทำให้เป็นเมนูยอดฮิตในคาเฟ่ยุคใหม่
กาแฟ Dirty เป็นเมนูกาแฟที่เสิร์ฟแยกชั้นกันระหว่าง นมสดเย็นและ เอสเปรสโซ่ช็อต หรือริสเทรตโต (เอสเปรสโซ่เข้มข้นสูง) ค่อนข้างชัดเจน เวลาเสิร์ฟจะใส่ในแก้วใสเพื่อให้มองเห็นชั้นที่แยกกันอย่างชัดเจน ดูโดดเด่นสวยงาม และมีรสชาติที่แปลกใหม่หลากหลายอยู่ในแก้วเดียว เมื่อดื่มจะได้ทั้งความร้อนจากเอสเปรสโซ่และความเย็นจากนมสด
ชื่อกาแฟ Dirty มีที่มาอย่างไร?
Dirty ที่ไม่ได้แปลว่าสกปรก แต่มาจากความเลอะเทอะของชั้นกาแฟและนมสดเย็นที่แยกกันอย่างชัดเจน เมื่อน้ำกาแฟเอสเปรสโซ่ร้อนแทรกซึมลงสู่นมสดเย็นจะปรากฏเป็นริ้วรอย หรือเส้นสาย ทำให้นมสดเย็นดูเปรอะเปื้อนเลอะเทอะไปด้วยสีของกาแฟ เมนูกาแฟ Dirty เพิ่งถือกำเนิดได้ไม่กี่ปีในกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น โดยคัตซึยูกิ ทานากะ เจ้าของ Bear Pond Espresso บาร์ในย่านชิโมะคิตาซาวะ ซึ่งเป็นผู้หลงใหลในกาแฟเอสเปรสโซ่เป็นอย่างมาก เมื่อได้รังสรรค์เมนูกาแฟร้อนผสมนมสดเย็นแยกชั้นนี้แล้วก็ได้เปิดตัวที่ Joe The Art of Coffee ในนครนิวยอร์คทำให้เมนูกาแฟเดอตี้กลายเป็นที่รู้จักในหมู่คอกาแฟทั่วโลก และกลายเป็นเมนูกาแฟประจำ Bear Pond Espresso
วิธีทำกาแฟ Dirty ง่าย ๆ ที่ใครก็ทำตามได้
ส่วนผสมหลักของกาแฟเดอร์ตี้ได้แก่นมกับกาแฟ แต่บาริสต้าจะแสดงฝีมือที่แตกต่างกันออกไปด้วยเทคนิคการรินกาแฟลงในแก้วนมสดแช่เย็นที่แตกต่างกัน มาดูวิธีทำกาแฟ dirty ที่ทั้งสวยและอร่อยกันเลย
ส่วนผสมกาแฟ Dirty Coffee
- เอสเปรสโซ่ช็อต 1 ออนซ์ (30 มล.)
- นมสดรสจืด 4 ออนซ์ (120 มล.)
- ไซรัปรสวนิลา เฮเซลนัท หรือรสอื่นๆ ตามชอบ (หากไม่ชอบหวานไม่ต้องใส่)
วิธีทำกาแฟ Dirty
- นำนมสดใส่แก้วใสแล้วนำไปแช่ช่องแข็งประมาณ 10-15 นาทีให้นมเย็นจัด สังเกตว่าจะมีไขอยู่บนผิวนมสด
- เตรียมทำเอสเปรสโซ่ช็อตเข้มข้น สามารถทำได้เองที่บ้านโดยใช้เครื่องชงกาแฟ
- นำแก้วที่ใส่นมมารองกาแฟเอสเปรสโซ่ที่สกัดจากเครื่องโดยตรง หรือนำกาแฟเอสเปรสโซ่ช็อตค่อย ๆ รินใส่ด้านบนของนมสด หรือใช้ช้อนเพื่อกำหนดจุดให้น้ำกาแฟค่อย ๆ ไหลลงไปทั่วแก้ว
ทริกการทำกาแฟเดอตี้ให้สมบูรณ์แบบ
-
การเสิร์ฟในแก้วใสช่วยให้เห็นเลเยอร์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และการแช่เย็นแก้วก่อนเสิร์ฟจะช่วยให้เลเยอร์คงอยู่ได้นานขึ้น
-
เสน่ห์ของกาแฟเดอตี้ อยู่ที่ความหลากหลายในการปรับแต่งรสชาติให้เข้ากับความชอบส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการปรับระดับความเข้มของกาแฟ ความหวานของนม หรือการเลือกท็อปปิ้งที่หลากหลาย อย่างเช่น การใช้ครีมนมแทนนมสด หรือเปลี่ยนจากคาราเมลเป็นวานิลลาก็ได้เช่นกัน ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้ตามความชอบส่วนตัวเลย
วิธีการดื่ม Dirty Coffee ที่ถูกต้อง
คอนเซ็ปต์ของการดื่มกาแฟเดอตี้ คือ “เสิร์ฟมาแบบไหน ดื่มแบบนั้น” เริ่มจากการค่อย ๆ จิบกาแฟ Dirty โดยไม่ต้องคน ควรจะยกดื่มให้นมสดเย็น ๆ ไหลผ่านกาแฟเอสเปรสโซ่ร้อน ๆ เข้าสู่ปาก รสชาติแรกจะรู้สึกถึงเอสเปรสโซ่เข้มข้นร้อน ๆ ที่โอบล้อมลิ้นตามด้วยความนุ่มละมุนของนมเย็นและความหวานของคาราเมลที่ค่อย ๆ ผสมกลมกล่อมกันในตอนท้าย เอกลักษณ์ของกาแฟเดอตี้ คือ ความนุ่มที่ต้องมีทั้งความร้อนและเย็นในคำเดียวกัน พร้อมกลิ่นหอมที่ชัดเจนของเอสเปรสโซ่ ที่สำคัญที่สุดของการดื่ม Dirty Coffee คือไม่ควรทิ้งระยะเวลานานเกินไป เนื่องจากจะทำให้อุณหภูมิของกาแฟและนมผสมกันจนเลเยอร์หายไป ทำให้เสียรสชาติที่ลงตัวของความขมและความหวาน เพราะฉะนั้น เพื่อลิ้มรสชาติที่ลงตัวที่สุดของ Dirty Coffee ควรดื่มทันทีที่เสิร์ฟ
10 สาระน่ารู้ที่คนอยากรู้ที่สุดเกี่ยวกับกาแฟ Dirty
1. Dirty coffee ต่างจากกาแฟลาเต้ยังไง
ถึงแม้กาแฟ Dirty และกาแฟลาเต้มีส่วนผสมคือนมและเอสเปรสโซ่ช็อตเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนคือ ลาเต้จะมีกาแฟเอสเปรสโซ่อยู่ด้านล่าง และนมสดอยู่ด้านบน ปรุงเป็นเมนูร้อนหรือเย็นตามต้องการ ส่วนกาแฟ Dirty นั้นจะมีนมสดเย็นอยู่ด้านล่าง และกาแฟเอสเปรสโซ่ช็อตร้อนอยู่ด้านบน เมื่อดื่มจะสัมผัสถึงความเย็นของนมและความร้อนของกาแฟไปพร้อม ๆ กัน และสามารถเพิ่มรสชาติด้วยไซรัปรสชาติต่าง ๆ เช่น เฮเซลนัท หรือ วนิลาได้อีกด้วย
2. ทำอย่างไรให้เลเยอร์ Dirty Coffee อยู่ได้นานขึ้น
- อุณหภูมิของนม: นมที่เย็นจัดจะช่วยให้เลเยอร์คงรูปได้ดีขึ้น ลองแช่ขวดนมในตู้เย็นก่อนนำมาใช้ หรืออาจจะเติมน้ำแข็งลงไปในนมเล็กน้อยก่อนเทลงในกาแฟ
- ความเร็วในการเทนม: เทนมลงบนเอสเปรสโซ่ช็อตช้า ๆ และเบา ๆ เพื่อไม่ให้เกิดฟองอากาศมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เลเยอร์เสียรูปได้
- ความหนาแน่นของนม: นมสดที่ยังคงมีไขมันในปริมาณตามธรรมชาติอยู่ครบถ้วนจะมีความหนาแน่นมากกว่านมพร่องมันเนย ทำให้เลเยอร์คงรูปได้ดีกว่า
- ชนิดของแก้ว: เลือกใช้แก้วที่เรียบและใส เพื่อให้เห็นเลเยอร์ได้ชัดเจน และควรเป็นแก้วที่เย็นจัดเช่นกัน
3. กาแฟ Dirty ใช้กาแฟกี่ช็อต
กาแฟ Dirty ใช้เอสเปรสโซ่เพียงช็อตเดียว แต่ควรเป็นเอสเปรสโซ่ที่เข้มข้น ใช้ปริมาณเม็ดกาแฟมากกว่าปกติ หรือเป็นกาแฟริสเทรตโต (เอสเปรสโซ่เข้มข้นสูง) เพื่อให้รสชาติที่เข้มข้นโดดเด่น เมื่อดื่มกับนมสดเย็นแล้วจะได้รสชาติที่ละมุน หอม หวาน
4. Dirty Coffee ใช้กาแฟอะไร
กาแฟเอสเปรสโซ่เข้มข้นที่ใช้ทำ Dirty จะใช้เม็ดกาแฟอาราบิก้า เพื่อรสชาติเข้มข้นแต่หอมละมุน นุ่มนวล หรือใช้กาแฟโรบัสต้าที่เข้มข้นก็ได้ หรือแม้แต่กาแฟผสมระหว่างอาราบิก้าและโรบัสต้าก็นำมาใช้ทำกาแฟเดอตี้ได้เช่นกัน อยู่ที่บาริสต้าต้องการจะรังสรรค์รสชาติกาแฟให้ออกมาอย่างไร
5. กาแฟ Dirty ใช้นมประเภทไหน
กาแฟเดอตี้มักใช้นมสดเป็นหลัก โดยทั่วไปจะใช้ นมเต็มไขมัน เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและเนียนนุ่ม แต่บางคนก็เลือกใช้ นมไขมันต่ำ หรือ นมพืช เช่น นมอัลมอนด์ หรือ นมโอ๊ต ขึ้นอยู่กับความชอบและความต้องการทางโภชนาการของแต่ละคน
6.กาแฟ Dirty หวานไหม
กาแฟ Dirty แบบดั้งเดิม จะไม่มีการเติมน้ำตาลหรือสารให้ความหวานใด ๆ แต่จะได้รสหอมหวานจากนมสด และมีรสชาติที่เข้มข้นเพราะไม่ใส่น้ำแข็ง แต่เป็นความเย็นจากนมสด
7. กาแฟ Dirty กี่แคล
กาแฟ Dirty แบบต้นตำรับนั้นมีแคลอรี่ไม่สูง เนื่องจากมีส่วนผสมเพียงแค่นมสดเย็นและกาแฟเอสเปรสโซ่เสิร์ฟในแก้วใสขนาดกะทัดรัด มีความหวานเล็กน้อยจากนมสด ไม่ปรุงแต่งรสชาติด้วยน้ำตาลหรือไซรัปใด ๆ ดังนั้นกาแฟ Dirty แบบต้นตำรับจึงมีแคลอรี่ต่ำเพียง 110 Kcal เท่านั้น
แต่ปัจจุบันก็มีการรังสรรค์เมนูกาแฟ Dirty สูตรใหม่ ๆ โดยการใส่ไซรัปรสต่าง ๆ ลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ ซึ่งก็จะเพิ่มแคลอรี่ขึ้นมาอีกเล็กน้อย กาแฟ Dirty จึงเป็นอีกเมนูหนึ่งซึ่งได้รับความนิยมในหมู่ผู้รักสุขภาพหรือผู้ที่ต้องการควบคุมแคลอรี่และปริมาณน้ำตาลด้วย
8. Dirty Matcha คืออะไร
Dirty matcha เป็นเมนูชาเขียวที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Dirty coffee นั่นเอง โดยวิธีการทำก็เหมือนกับกาแฟเดอตี้ เพียงแต่ใช้ชาเขียว หรือ Matcha คุณภาพดีชงแบบเข้มข้น แทนกาแฟเอสเปรสโซ่
9. ใครไม่ควรดื่มกาแฟ Dirty
คนที่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ Dirty ได้แก่ ผู้ที่แพ้นม, ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับคาเฟอีน เช่น โรคหัวใจหรือความดันโลหิตสูง, หญิงตั้งครรภ์, ผู้ที่มีปัญหากระเพาะอาหาร, ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก และผู้ที่มีความไวต่อคาเฟอีน โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานควรระวังปริมาณน้ำตาลจากครีมเทียม เนื่องจากกาแฟ Dirty มีส่วนผสมหลักเป็นนมและกาแฟ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ได้
10. ถ้าไม่มีเครื่องชงกาแฟ จะทำกาแฟ Dirty ดื่มเองได้ไหม
แม้จะไม่มีเครื่องชงกาแฟ ก็ยังสามารถทำ Dirty Coffee ได้ เพียงแค่ปรับวิธีการทำเล็กน้อย และมีอุปกรณ์พื้นฐานอย่าง กาแฟคั่วบด หม้อต้ม หรือกาต้มน้ำร้อน กระชอน แก้ว และนมข้นหวาน ก็สามารถทำกาแฟ Dirty ได้แล้ว
กาแฟเดอตี้ ความกลมกล่อมที่ใครก็ต้องหลงรัก
กาแฟ Dirty กลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในหมู่คนรักกาแฟ ด้วยรสชาติที่ลงตัวระหว่างความขมของกาแฟและความหวานมันของนมที่เข้ากันอย่างลงตัว ดื่มได้เรื่อยๆ ชื่นใจ และหลายร้านก็มีเมนูนี้เป็นซิกเนเจอร์ เพราะความนิยมที่ไม่เคยลดลง แต่ถ้าอยากดื่มกาแฟ Dirty ที่มีรสชาติพิเศษกว่าเดิม ก็สามารถทำดื่มเองได้ที่บ้าน เพียงมีเครื่องชงกาแฟ Beno ที่ช่วยควบคุมรสชาติของกาแฟได้อย่างละเอียด ตั้งแต่ความเข้มข้นของกาแฟ ไปจนถึงฟองนมที่นุ่มละมุน ทำให้กาแฟ Dirty แก้วโปรดของคุณมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และยังช่วยให้คุณได้เพลิดเพลินกับการทำกาแฟในแบบของคุณเองอีกด้วย ตอนนี้มีโปรโมชันเอาใจคอกาแฟ รับส่วนลดเต็ม ๆ 200 บาท เมื่อใช้โค้ด BENOA200 ที่ Shopee Thailand