สำหรับ Coffee Lover ที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ แต่ยังต้องเติมคาเฟอีนในทุก ๆ วัน “กาแฟแคปซูล” คือตัวช่วยที่จะมาทำให้การดื่มกาแฟง่ายขึ้น เพียงแค่ใส่แคปซูลกาแฟลงในเครื่อง และกดปุ่มไม่กี่ทีก็ได้กาแฟหอม ๆ รสชาติดีพร้อมดื่มแล้ว และบทความนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับกาแฟแคปซูล คืออะไร แตกต่างกับกาแฟสดยังไง รวมถึงกาแฟแคปซูล มีกี่แบบ และแนะนำกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดีที่ควรลอง พร้อมเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่น่าสนใจ เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียว!
กาแฟแคปซูล คืออะไร ?
กาแฟแคปซูล คือกาแฟที่ถูกบรรจุไว้ในแคปซูลเล็ก ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับเครื่องชงกาแฟเฉพาะ และภายในแคปซูลแต่ละชิ้นบรรจุกาแฟคั่วบดที่ผ่านการคัดสรรคุณภาพ และปริมาณมาเป็นอย่างดี ทำให้ได้รสชาติกาแฟที่คงที่ทุกแก้ว ไม่ต้องเสียเวลาบดเมล็ดหรือชงเองให้ยุ่งเลย เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา แต่ยังอยากได้กาแฟดี ๆ สักแก้วไว้เติมพลัง ไม่ว่าจะเป็นเอสเพรสโซ่เข้ม ๆ หรือลาเต้หอมนุ่ม แค่มีเครื่องชงเฉพาะกับแคปซูลกาแฟ ก็พร้อมชงกาแฟแก้วโปรดได้ทันใจ
ไขข้อสงสัย! กาแฟแคปซูล มีกี่แบบ ? แบบไหนกำลังฮิตในตอนนี้
หลายคนที่เริ่มสนใจกาแฟแคปซูล ก็มักจะสงสัยว่ากาแฟแคปซูล มีกี่แบบ แล้วแบบไหนเหมาะกับเรามากกว่ากัน จริง ๆ แล้วถ้าแบ่งตามระบบของเครื่องชงก็จะมี 3 แบบที่คนนิยมใช้ คือ แบบ Nespresso แบบ Dolce Gusto และแบบ Starbucks Verismo / Tassimo เรามาดูกันว่า 3 แบบนี้แตกต่างกันยังไง
-
แบบ Nespresso : กาแฟเอสเพรสโซ่เข้ม ๆ ต้องแบบ Nespresso เลย เพราะถูกออกแบบมาเพื่อชงเอสเพรสโซ่โดยเฉพาะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบกาแฟดำ หรือนำไปผสมนม ทำเมนูกาแฟนมต่าง ๆ ได้ แต่ถึงแม้ว่า Nespresso จะเน้นเอสเพรสโซ่เป็นหลัก แต่ก็มีแคปซูลกาแฟมีหลากหลายรสชาติและระดับความเข้มข้นให้เลือก ทำให้สามารถเลือกรสชาติที่ตรงใจได้ง่าย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมระบบของ Nespresso ถึงเป็นตัวเลือกที่คนรักกาแฟหลายคนเลือกใช้
-
แบบ Dolce Gusto : แคปซูลของระบบนี้จะใหญ่กว่า Nespresso เล็กน้อย มีรูปทรงคล้ายโดม จุดเด่นของ Dolce Gusto คือสามารถชงเครื่องดื่มได้หลากหลาย ไม่ได้จำกัดแค่กาแฟเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเมนูกาแฟนมอย่างลาเต้ คาปูชิโน่ ช็อกโกแลตร้อน ชาเขียว หรือแม้แต่นมร้อน เพราะมีแคปซูลนมแยกต่างหาก สะดวกสำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟนมมาก ๆ
-
แบบ Starbucks Verismo / Tassimo : ถึงแม้ว่าระบบนี้จะได้รับความนิยมน้อยกว่าสองระบบแรกในไทย แต่ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ชื่นชอบกาแฟของ Starbucks ที่อยากชงเองที่บ้าน ถ้าชอบกาแฟเอสเพรสโซ่และเครื่องดื่มที่ใช้นมเป็นหลัก Starbucks Verismo อาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าชอบความหลากหลาย และสามารถทำเครื่องดื่มได้หลากหลายประเภท Tassimo อาจเป็นทางเลือกที่โดนใจมากกว่า
กาแฟแคปซูล vs กาแฟสด ต่างกันยังไง ?
ถึงจะเป็นกาแฟเหมือนกัน แต่ "กาแฟแคปซูล" กับ "กาแฟสด" ก็มีสไตล์ต่างกันชัดเจน คนละฟีลเลยก็ว่าได้
ความสะดวกสบายในการชง
-
กาแฟแคปซูล : ถือเป็นตัวท็อปเรื่องความสะดวกสบาย แค่ใส่แคปซูล กดปุ่ม รอไม่กี่วินาทีก็ได้กาแฟพร้อมดื่มแล้ว
-
กาแฟสด : การชงกาแฟสดต้องใช้เวลาและขั้นตอนที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการบดเมล็ดกาแฟ การเตรียมอุปกรณ์ หรือการสกัดกาแฟ
รสชาติและความหลากหลาย
-
กาแฟแคปซูล : จุดเด่นที่ชัดเจนคือรสชาติมันจะเป๊ะเหมือนกันทุกแก้ว เพราะกาแฟในแคปซูลถูกคุมปริมาณและระดับการบดมาอย่างดี ไม่ต้องมาลุ้นว่าวันนี้จะอร่อยเหมือนเมื่อวานไหม
-
กาแฟสด : สามารถปรับแต่งรสชาติได้ตามใจชอบเลย ไม่ว่าจะบดหยาบ บดละเอียด ใช้น้ำอุณหภูมิไหน หรือชงด้วยวิธีไหน ก็ทำให้รสชาติเปลี่ยนไปได้เรื่อย ๆ
อุปกรณ์และต้นทุน
-
กาแฟแคปซูล : เครื่องชงกาแฟแคปซูลส่วนใหญ่ราคาไม่แพงมาก ซื้อหาได้ง่าย ถ้าคำนวณราคาต่อแก้วในระยะยาว แคปซูลแต่ละอันก็อาจจะมีราคาสูงกว่ากาแฟสด
-
กาแฟสด : การลงทุนกับอุปกรณ์เครื่องชงกาแฟสด เช่น เครื่องบด เครื่องชง หรืออุปกรณ์ดริป อาจมีต้นทุนเริ่มต้นที่สูงกว่า แต่ในระยะยาว ต้นทุนต่อแก้วมักจะถูกกว่ากาแฟแคปซูล
การเลือกกาแฟแคปซูลหรือกาแฟสด ก็ขึ้นอยู่กับว่าไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ถ้าชอบความสะดวกสบายไม่ยุ่งยาก แคปซูลตอบโจทย์ได้ดี หรืออยากใส่ใจกับทุกขั้นตอน อยากคุมรสได้ตามใจกาแฟสดคือทางเลือกที่ใช่
10 กาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี รวมแบรนด์กาแฟรสชาติดีจนต้องซื้อซ้ำ

1. Nespresso
ถ้าพูดถึงกาแฟแคปซูล Nespresso คือเบอร์หนึ่งที่หลายคนนึกถึง โดดเด่นเรื่องกาแฟเอสเพรสโซ่เข้มข้น มีครีม่าสวย ๆ แถมยังมีแคปซูลหลากหลายของรสชาติและกลิ่นให้เลือกมากมาย ทั้งจากเมล็ดกาแฟจากแหล่งต่าง ๆ และการคั่วที่แตกต่างกัน ไปจนถึงรสชาติพิเศษตามเทศกาล ตัวฮิตที่อยากแนะนำ ก็หนีไม่พ้นกลุ่ม Espresso อย่าง Arpeggio ที่เข้มข้นจัดจ้าน หรือ Volluto ที่นุ่มนวลกว่าหน่อย เหมาะกับคนชอบกาแฟดำ หรือเอาไปชงกับนมก็อร่อยลงตัว
2. Nescafe Dolce Gusto
คอกาแฟที่ชอบความหลากหลาย ต้องยกให้ Nescafe Dolce Gusto เลย! เพราะไม่ได้มีแค่กาแฟ แต่มีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกเพียบ ทั้งกาแฟดำ กาแฟนมอย่างลาเต้ คาปูชิโน่ ไปจนถึงช็อกโกแลต ชาเชียวร้อนก็ยังได้ เมนูยอดนิยม ที่ต้องลองเลยคือ Latte Macchiato ที่เป็นกาแฟนมแบบเลเยอร์สวย ๆ
3. Starbucks
ใครเป็นแฟน Starbucks ตัวจริง ต้องไม่พลาดกาแฟแคปซูล ที่เหมือนยกเอากาแฟคุณภาพดี จากร้านมาไว้ในแคปซูลให้คุณชงเองได้ที่บ้าน ทั้งแบบที่ใช้กับเครื่อง Nespresso และ Dolce Gusto สชาติเด่นๆ ก็จะมี Pike Place Roast ที่เป็นซิกเนเจอร์ของ Starbucks หรือ Espresso Roast ที่เข้มข้นเหมาะสำหรับชงเอสเพรสโซ่
4. Café Amazon
เอาใจคอกาแฟอย่าง Café Amazon ที่ตอนนี้ก็มีกาแฟแคปซูลออกมาให้เลือกดื่มแล้วนะ! ตัวเด่น ๆ ที่น่าลองก็คือ Signature Blend ที่ให้รสชาติเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์ หรือ House Blend ที่ดื่มง่ายกว่าหน่อย หมาะสำหรับคนที่อยากได้รสชาติกาแฟสไตล์อเมซอนแท้ๆ แต่ชงสะดวกสบายได้ที่บ้าน
5. Duchess Coffee
Duchess Coffee เป็นอีกแบรนด์ไทยที่น่าสนใจ กาแฟแคปซูลโดดเด่นเรื่องกาแฟที่คัดสรรมาอย่างดี มีให้เลือกทั้งอาราบิก้าแท้ 100% หรือเบลนด์ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว รสชาติที่อยากจะแนะนำเลยคือ romatico ที่มีกลิ่นหอมและรสชาติกลมกล่อม หรือ Intenso สำหรับคนชอบความเข้มข้นเป็นพิเศษ
6. The Summer Coffee Company
สำหรับคอกาแฟ Specialty Coffee ที่อยากลองแคปซูล The Summer Coffee Company คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ แบรนด์นี้ขึ้นชื่อเรื่องการคั่วกาแฟคุณภาพดี และมักจะมีเมล็ดกาแฟจากแหล่งต่าง ๆ มาให้ลองเรื่อย ๆ ตัวที่น่าสนใจ มักจะเป็นกาแฟ Single Origin ที่หมุนเวียนไปตามฤดูกาล ซึ่งจะให้รสชาติและกลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการดื่มกาแฟแคปซูล
7. DoiTung
กาแฟไทยคุณภาพดีอย่าง DoiTung (ดอยตุง) กันบ้าง กาแฟแคปซูลของดอยตุงคือการนำเอาเมล็ดกาแฟอาราบิก้าของไทย มาบรรจุในแคปซูลอย่าง Original Blend ที่ทำให้คุณได้ดื่มกาแฟไทยที่มีคุณภาพ รสชาติอร่อยกลมกล่อม ให้ความหอมนุ่ม
8. Doi Chaang
มาต่อกันที่ Doi Chaang (ดอยช้าง) ก็มีกาแฟแคปซูลให้เลือกดื่มเช่นกัน กาแฟของดอยช้างขึ้นชื่อเรื่องรสชาติที่เข้มข้น หอมกรุ่น และเป็นกาแฟออร์แกนิกที่ปลูกในประเทศไทย ตัวเด็ดที่แนะนำ คือ Signature Blend ที่เป็นเอกลักษณ์ของดอยช้าง ให้รสชาติที่นุ่มลึก มีบอดี้ที่แน่น
9. Alto Coffee Roasters
ถ้าคุณเป็นสาย Specialty Coffee ที่ชอบความซับซ้อนของรสชาติ Alto Coffee Roasters คืออีกแบรนด์ที่น่าลอง มีกาแฟแคปซูลที่คัดสรรเมล็ดกาแฟพิเศษมาให้ได้ลิ้มลอง อย่างกาแฟ Single Origin ที่มีโปรไฟล์รสชาติเฉพาะตัว เช่น กาแฟจากเอธิโอเปียที่มีกลิ่นดอกไม้ ถ้าอยากลองอะไรใหม่ ๆ ต้องไม่พลาดกับแบรนด์
10. Boncafe
ปิดท้ายด้วยแบรนด์กาแฟ Boncafe ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี นอกจากจะเด่นเรื่องกาแฟคั่วบด กาแฟสำเร็จรูปแล้ว ก็ยังมีกาแฟแคปซูลออกมาให้เลือกดื่มเหมือนกัน Boncafe เน้นกาแฟที่เข้าถึงง่าย ดื่มได้ทุกวัน อย่าง Extra Dark เมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า 100% ที่ให้รสชาติเข้มข้นตามแบบฉบับกาแฟยุโรป หรือ Mocca Coffee ที่ให้รสชมอมหวาน
เปิดลิสต์ 3 เครื่องชงกาแฟแคปซูลที่คอกาแฟต้องมี!
กาแฟแคปซูลจะอร่อยขึ้นได้อีกเยอะ ถ้าเรามีเครื่องชงกาแฟแคปซูลดี ๆ มาช่วย เพราะเครื่องชงนี่แหละคือหัวใจสำคัญที่จะดึงรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟออกมาให้เราได้ฟินไปกับรสชาติกาแฟ วันนี้เราเลยคัด 3 รุ่นเด็ดมาแนะนำ ไปดูกันเลย!
1. OGGI รุ่น MC-2 PLUS

เครื่องชงกาแฟแคปซูลดีไซน์มินิมอลที่ตอบโจทย์คนชอบความง่าย และครบเครื่องในงบประมาณที่คุ้มค่า รุ่นนี้ถือเป็นตัวยอดฮิตที่หลายคนเลือกใช้ เพราะมีฟังก์ชันที่จำเป็นครบครัน นอกจากนี้ยังมีอะแดปเตอร์ชงกาแฟถึง 4 แบบ เช่น กาแฟบด กาแฟพอด แคปซูลกาแฟยี่ห้อ Nespresso และแคปซูลกาแฟ Dolce-Gusto รวมไปถึงกาแฟแคปซูลยี่ห้ออื่น ๆ ที่มีขนาดเท่ากัน
ฟังก์ชัน :
-
แทงค์น้ำความจุ 0.6 ลิตร สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้
-
แรงดัน 19 บาร์ ช่วยสกัดกาแฟออกมาได้เข้มข้น มีครีม่าสวย ๆ
-
ปรับระดับน้ำได้ถึง 7 ระดับ
-
มีระบบปิดเครื่องอัตโนมัติ เมื่อไม่ได้ใช้งาน 15 นาที
-
ขนาดกระทัดรัด เหมาะสำหรับใช้งานในบ้านหรือพื้นที่จำกัด
-
ราคาเริ่มต้นเพียง 2,730 บาท
2. BN-3 MILK TOUCH

ถ้าใครเป็นสายกาแฟนมที่ชอบลาเต้ คาปูชิโน่ BN-3 MILK TOUCH คือเครื่องชงาแฟแคปซูลที่คุณต้องมี! เพราะรุ่นนี้มาพร้อมกับฟังก์ชัน ทำฟองนมในตัว ไม่ต้องยุ่งยากไปซื้อเครื่องทำฟองนมแยกเลย สะดวกครบจบในเครื่องเดียว อีกทั้งยังมาพร้อมกับอะแดปเตอร์ชงกาแฟ 3 แบบ อย่างกาแฟบดและชา กาแฟแคปซูล Nespresso และกาแฟแคปซูล Dolce Gusto
ฟังก์ชัน :
-
แทงค์น้ำความจุ 1.4 ลิตร สามารถถอดทำความสะอาดได้
-
ระบบทำฟองนมอัตโนมัติ
-
มีแทงก์ใส่นมแยกออกมา ทำให้จัดการง่าย ทำความสะอาดก็สะดวก
-
เลือกปริมาณน้ำในการชงได้ 2 ระดับ
-
แรงดัน 19 บาร์ ช่วยสกัดกาแฟออกมาได้เข้มข้น มีครีม่า
-
มีระบบปิดเครื่องอัตโนมัติ เมื่อไม่ได้ใช้งาน 15 นาที
-
ขนาดกระทัดรัด เหมาะสำหรับใช้งานในบ้านหรือพื้นที่จำกัด
-
ราคาเริ่มต้นเพียง 3,990 บาท
3. OGGI GB-2

OGGI GB-2 เครื่องชงกาแฟแคปซูลอัตโนมัติแบบ ALL-IN-ONE Coffee Station ฟีเจอร์จัดเต็ม บดและชงกาแฟสดได้ภายในเครื่องเดียว มีอะแดปเตอร์ชงกาแฟถึง 4 แบบ เช่น กาแฟบด กาแฟพอด แคปซูลกาแฟยี่ห้อ Nespresso และแคปซูลกาแฟ Dolce-Gusto หรือถ้าอยากใช้แคปซูลชนิดอื่น ๆ สามารถซื้ออะแดปเตอร์เพิ่มเติมได้ เรียกได้ว่าเป็นเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่นักชงประจำบ้านต้องเลิฟ!
ฟังก์ชัน :
-
แทงค์น้ำความจุ 2 ลิตร สามารถถอดทำความสะอาดได้
-
หม้อต้มแบบ Thermoblock ให้ความร้อนสม่ำเสมอและรวดเร็ว
-
ปรับระดับน้ำได้ถึง 7 ระดับ
-
มีระบบพรมน้ำกาแฟก่อนเริ่มชง (pre-infusion)
-
แรงดัน 19 บาร์ ช่วยสกัดกาแฟออกมาได้เข้มข้น มีครีม่า
-
เครื่องบดกาแฟแบบเฟืองทรงกรวย ปรับระดับความละเอียดได้ 15 ระดับ
-
มีระบบปิดเครื่องอัตโนมัติ เมื่อไม่ได้ใช้งาน 15 นาที
-
ขนาดกระทัดรัด เหมาะสำหรับใช้งานในบ้านหรือพื้นที่จำกัด
-
ราคาเริ่มต้นเพียง 7,990 บาท
กาแฟแคปซูล มีกี่แบบ ? เริ่มวันสบาย ๆ ด้วยกาแฟในแบบที่คุณชอบ พร้อมเครื่องชงจาก Beno
กาแฟแคปซูลคือตัวเลือกที่สะดวกและรวดเร็ว ไม่แพ้กาแฟสำเร็จรูป หรือกาแฟฟรีซดราย และไม่ว่ากาแฟแคปซูล มีกี่แบบ ก็สามารถเลือกได้ทั้งแบบ Nespresso, Dolce Gusto หรือแบบเฉพาะตามรสชาติที่คุณชอบ พร้อมกับเครื่องชงกาแฟที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างเครื่องชงกาแฟแคปซูลจาก Beno ที่เติมเต็มทุกสไตล์การดื่มกาแฟของคุณ เพียงแค่มีแคปซูลกาแฟที่ชอบ กับเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่ใช่! ก็ให้ความรู้สึกเหมือนมีบาริสต้าส่วนตัวมาชงให้ที่บ้าน และอย่าพลาด! ตอนนี้คุณสามารถช้อปพร้อมข้อเสนอพิเศษจาก Shopee รับส่วนลด 200 บาททันทีเมื่อใช้โค้ด BENOA200 รีบเลย! ชงกาแฟอร่อยได้ง่าย ๆ ได้ทุกวันกับ Beno
