mocha คือ

ประวัติของกาแฟมอคค่า พร้อมเคล็ดลับการทำกาแฟที่คนรักช็อกโกแลตห้ามพลาด!

Oct 03, 2023Beno smartliving

หลายคนอาจคุ้นชื่อ “มอคค่า” (Mocha) ในฐานะกาแฟที่มีรสหวานละมุนจากช็อกโกแลตผสมอยู่ แต่รู้หรือไม่ว่าเบื้องหลังเมนูยอดฮิตแก้วนี้ มีเรื่องราวน่าสนใจซ่อนอยู่มากมาย ทั้งที่มาของชื่อ ส่วนผสมที่ลงตัว ไปจนถึงรากเหง้าทางประวัติศาสตร์ที่ย้อนกลับไปหลายร้อยปี แล้วเคยสงสัยไหมว่าทำไมถึงเรียกว่ามอคค่า? วันนี้จะพาไปทุกคนไปย้อนรอย พร้อมหาคำตอบว่า กาแฟมอคค่า คืออะไร? พร้อมสูตรทำมอคค่าเย็น มอคค่าร้อนให้อร่อยกัน!

 

กาแฟมอคค่า คืออะไร? 

 

กาแฟมอคค่าช็อคโกแลต

 

พื้นฐานของกาแฟมอคค่า (Mocha) คือ กาแฟเอสเปรสโซ่ช็อต ผสมกับโกโก้หรือช็อกโกแลต ที่มาในรูปแบบไซรัปหรือผง แล้วใส่น้ำเชื่อม นม หรือครีม บางร้านจะตบท้ายด้วยการตกแต่งหน้าด้วยวิปครีม หรือทอปปิ้งอื่น ๆ พร้อมโรยด้วยช็อกโกแลตชิป หรือซอสช็อกโกแลตเพื่อเพิ่มความสวยงามน่ากิน

 

ชื่อ ‘มอคค่า’ มาจากไหน

คำว่า ‘มอคค่า’ มาจากชื่อของเมืองท่าอัลมาคา (al-Makha) หรือมอคค่า (Mocha, Mokka หรือ Mokha) ในเยเมน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้ากาแฟที่สำคัญของโลกในช่วงศตวรรษที่ 15 ถึงต้นศตวรรษที่ 18 กาแฟอาราบิก้าที่ปลูกในเยเมนจึงถูกเรียกว่า "กาแฟมอคค่า" ตามชื่อท่าเรือที่ส่งออกไปทั่วโลก ทำให้กาแฟมอคค่าเป็นหนึ่งในพันธุ์กาแฟอาราบิก้าที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งเมล็ดกาแฟเหล่านี้ได้รับความนิยมมาก เพราะแตกต่างจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าสายพันธุ์อื่น ด้วยสีสันที่โดดเด่น มีสีเขียวอมเหลือง และให้กลิ่นและรสช็อกโกแลตผสมกับกลิ่นดิน แตกต่างจากกาแฟอาราบิก้าอื่น ๆ ที่ให้กลิ่นผลไม้ เมล็ดกาแฟมอคค่าจึงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก


ในภายหลังมีการรังสรรค์เมนูกาแฟให้หลากหลายมากขึ้นรวมถึงเมนูกาแฟมอคค่าด้วย ซึ่งเป็นการผสมผสานส่วนผสมหลักคือ เอสเปรสโซ่ ช็อกโกแลตร้อนและฟองนมหรือวิปครีมเข้าด้วยกัน และในปี 1892 เมนูอาหารเครื่องดื่มของประเทศอเมริกาก็เริ่มใช้คำว่า Caffe Mocha หรือกาแฟมอคคาในการเรียกเมนูกาแฟแสนอร่อยที่มีส่วนผสมของช็อกโกแลตนี้ ในปัจจุบันมอคค่าไม่ได้หมายถึงเมล็ดกาแฟที่มาจากเยเมน แต่หมายถึงเมนูกาแฟที่มีการผสมช็อกโกแลตแบบต่าง ๆ ลงไป 

 

รสชาติของกาแฟมอคค่า

กาแฟมอคค่าจะมีรสชาตินุ่มนวล ดื่มง่าย รสชาติของช็อกโกแลตจะเบลนด์เข้ากับกาแฟเป็นรสขมอ่อน ๆ กลิ่นและรสชาติของกาแฟไม่เข้มเกินไปเหมาะกับนักดื่มกาแฟที่ไม่ชอบกาแฟเข้มมาก นอกจากนั้นยังเพิ่มความนุ่มนวลด้วยนมสด และยังได้กลิ่นหอมของช็อกโกแลตผสมผสานกับกลิ่นกาแฟคั่ว เป็นความหอมที่ลงตัว กาแฟมอคค่าจึงเป็นที่นิยมของนักดื่มกาแฟทั่วโลก โดยเฉพาะนักดื่มกาแฟมือใหม่

 

กาแฟมอคค่า สรุปใช้โกโก้ หรือ ช็อคโกแลต?

เมนูมอคค่ามักใช้ช็อกโกแลต ในรูปแบบของซอสหรือช็อกโกแลตแท้ เพื่อให้ได้รสชาติหวานมันและกลิ่นหอมที่ชัดเจนมากกว่าการใช้โกโก้เพียว ๆ เพราะโกโก้คือผงที่ได้จากเมล็ดโกโก้ที่ผ่านกระบวนการอบแห้งและบด ส่วนช็อกโกแลตนั้นผ่านขั้นตอนเพิ่มน้ำตาลและไขมัน ทำให้ช็อคโกแลตมีความหวานและเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวลกว่า นอกจากนี้ การใช้ช็อกโกแลตแท้ยังช่วยให้กาแฟมอคค่ามีความสมดุลของรสชาติที่ซับซ้อน ทั้งความขมของกาแฟ ความหวานและความนุ่มของช็อกโกแลต 


แม้กาแฟมอคค่าจะเน้นใช้ช็อกโกแลตแท้เพื่อรสชาติที่กลมกล่อมและซับซ้อน แต่ก็มีบางร้านที่เลือกผสมผงโกโก้ลงไปด้วย เพื่อเพิ่มความเข้มข้นและกลิ่นหอมของโกโก้แบบดั้งเดิม หรือเพื่อลดต้นทุนและตอบโจทย์ลูกค้าที่ชอบรสชาติแบบเข้มข้นแต่ไม่หวานมาก แต่บางร้านก็ทำเพราะอยากได้รสชาติที่เฉพาะตัว สรุปคือ ไม่มีผิดไม่มีถูก ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบสไตล์ไหนมากกว่า

 

เมนูมอคค่า หลากหลายสไตล์

 

กาแฟมอคค่าวีแกน

 

1. ไวท์มอคค่า (White Mocha)

แทนที่จะใช้ช็อกโกแลตดำ จะใช้ช็อกโกแลตขาว (White chocolate) ซึ่งมีรสชาติหวานละมุนกว่ามอคค่าปกติ โดยยังคงความหอมของกาแฟและความมันของนม

2. มอคค่าคาราเมล (Caramel Mocha)

เพิ่มซอสคาราเมล ลงไปเพื่อเพิ่มความหวานและรสชาติที่อร่อยมากขึ้น มักจะมีรสชาติหวานหอมของคาราเมลผสมกับความเข้มของกาแฟและช็อกโกแลต

3. มอคค่ามินต์ (Mint Mocha)

เพิ่มรสชาติของมินต์ (สะระแหน่) ลงไปในมอคค่า มีรสชาติที่สดชื่นและหอมกลิ่นมินต์ เสริมด้วยรสช็อกโกแลตที่หวานมัน เป็นตัวเลือกยอดนิยมในช่วงเทศกาล

4. วีแกนมอคค่า (Vegan Mocha)

สำหรับผู้ที่ไม่ทานผลิตภัณฑ์จากนม สามารถใช้นมทางเลือก เช่น นมอัลมอนด์ นมข้าวโอ๊ต หรือนมมะพร้าว แทนสามารถเลือกใช้ช็อกโกแลตที่ไม่มีส่วนผสมของนม (Dark Chocolate) เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์มังสวิรัติ

 

วิธีทำมอคค่าเย็น พร้อมสูตรมอคค่า

 

มอคค่าเย็น

 

เมนูกาแฟมอคค่านิยมดื่มทั้งแบบร้อนและเย็น แต่ด้วยอากาศที่ร้อนระอุในประเทศไทย มอคค่าเย็นจึงเป็นที่นิยมในหมู่คอกาแฟชาวไทย และกาแฟมอคค่าเย็นมีวิธีชงอย่างไรให้อร่อย


ส่วนผสมของกาแฟมอคค่าเย็น

  • เอสเปรสโซ่ช็อต 60 มล. (2 ช็อต)
  • นมสด 60 มล. (2 ช็อต)
  • ช็อกโกแลตไซรัป 30 มล. 
  • น้ำแข็ง
  • ผงโกโก้ (ตามชอบ)
  • วิปปิ้งครีม (ตามชอบ)
  • ฟองนม (ตามชอบ)

 

วิธีทำเมนูมอคค่าเย็น

1. เตรียมกาแฟเอสเปรสโซ่ 60 มล. (2 ช็อต)
2. ผสมกาแฟกับช็อกโกแลตไซรัป และผงโก้โก้ให้เข้ากัน
3. เติมนมสด 60 มล. แล้วคนให้เข้ากันอีกครั้ง
4. เตรียมแก้วใส่น้ำแข็ง และนำส่วนผสมเทลงไป
5. แต่งหน้าด้วยวิปครีมหรือฟองนมตามชอบ


 

วิธีทำมอคค่าร้อน พร้อมสูตรมอคค่า  

 

มอคค่าร้อน

 

มอคค่าร้อนเพิ่มความนุ่มละมุนด้วยนมอุ่น พร้อมช็อกโกแลตไซรัปผงโกโก้หรือช็อกโกแลตชิปที่ชื่นชอบ ให้รสชาติที่เข้มข้นของกาแฟและช็อกโกแลต

 

ส่วนผสมของกาแฟมอคค่าร้อน

  • เอสเปรสโซ่ช็อต 60 มล. (2 ช็อต)
  • นมสด 120 มล.
  • ช็อกโกแลตไซรัปหรือเมเปิลไซรัป 30 มล. 
  • ช็อกโกแลตชิป 1 ช้อนโต๊ะ
  • วิปปิ้งครีม (ตามชอบ)

 

วิธีทำเมนูมอคค่าร้อน

1. เตรียมกาแฟเอสเปรสโซ่ 60 มล. (2 ช็อต)
2. ใส่ช็อกโกแลตชิปลงในกาแฟ
3. อุ่นนมให้ร้อนแล้วผสมลงในกาแฟ
4. ใส่ช็อกโกแลตไซรัปหรือเมเปิลไซรัปแล้วคนให้เข้ากัน
5. ตกแต่งด้วยวิปครีม


แกะรอยสูตรเด็ด! เคล็ดลับชงมอคค่าให้อร่อย ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง?

 

กาแฟมอคค่าเย็น

 

1. กาแฟ (Espresso)

เอสเปรสโซ่คือตัวตั้งต้นของกาแฟมอคค่า ควรใช้เมล็ดคั่วกลาง–เข้มที่สดใหม่ ให้รสเข้ม มีบอดี้แน่น และไม่เปรี้ยวโดด เพราะถ้ากาแฟอ่อนหรือรสเบาไป ช็อกโกแลตจะกลบหมด จนมอคค่าเสียบาลานซ์


2. ช็อกโกแลต (Chocolate & Chocolate Sauce)

เลือกใช้ดาร์กช็อกโกแลตคุณภาพดี หรือซอสช็อกโกแลตเข้มข้น ไม่หวานจัดจนกลบรสกาแฟ หรือถ้าจะใช้ผงโกโก้ก็ควรเป็นแบบ Dutch process ที่มีความกลมกล่อม ไม่เปรี้ยวฝาด การเลือกวัตถุดิบตรงนี้คือหัวใจของรสชาติที่นุ่มแต่มีน้ำหนัก


3. นม (Milk & Milk Foam)

นมสดที่ดีควรมีไขมันพอเหมาะ (เช่น Whole Milk) หรือนม Plant-Based สูตร Barista ที่ตีฟองง่าย ฟองนมต้องเนียนละเอียด ไม่หยาบหรือเหลวจนกลบสัมผัสกาแฟ การสตรีมนมควรอยู่ในช่วง 60–65°C เพื่อคงรสครีมมี่โดยไม่ไหม้


4. ลำดับขั้นตอน

ชงเอสเปรสโซ่ให้ร้อน ละลายช็อกโกแลตลงไปให้กลมกลืนก่อน แล้วจึงรินนมลงอย่างนุ่มนวล การจัดลำดับนี้สำคัญมาก เพราะถ้าใส่ผิดจังหวะ รสชาติอาจแยกชั้นหรือไม่บาลานซ์ ทำให้กาแฟมอคค่าขาดความกลมกล่อมที่ควรจะเป็น


5. เครื่องชงกาแฟคุณภาพ

เครื่องชงกาแฟและเครื่องบดกาแฟที่มีแรงดันและความแม่นยำสม่ำเสมอ จะช่วยดึงรสชาติจากกาแฟออกมาได้เต็มที่ ยิ่งถ้ามีสตรีมเมอร์ดี ๆ จะทำให้นมตีออกมาเนียนฟู ลื่นลิ้น และเป็นหัวใจของฟีลลิ่ง “มืออาชีพ” ที่สัมผัสได้ตั้งแต่จิบแรก

 

มอคค่าแตกต่างจากเมนูกาแฟอื่น ๆ อย่างไร

มอคค่าแตกต่างจากเมนูกาแฟอื่นตรงที่มีส่วนผสมของช็อกโกแลต ไม่ว่าจะเป็นน้ำเชื่อม ช็อกโกแลตชิป หรือช็อกโกแลตไซรัป และยังใส่นม จึงให้รสชาติที่นุ่มนวลหอมกลิ่นช็อกโกแลต ดื่มง่ายกว่ากาแฟเมนูอื่น สามารถกินได้ทั้งแบบร้อน เย็น หรือปั่น 

 

มอคค่าต่างจากลาเต้ยังไง

กาแฟมอคค่ากับลาเต้ต่างก็เป็นเมนูยอดนิยมของคอกาแฟ ลาเต้คือกาแฟใส่นมที่จะใส่ระดับชั้นฟองนม ลาเต้ประกอบด้วยเอสเปรสโซ่และนมอุ่น จากนั้นใส่ฟองนมบนกาแฟ ลาเต้จึงเป็นกาแฟที่มีรสชาตินุ่มนวล มีกลิ่นและรสของนมที่โดดเด่น ส่วนมอคค่านั้นเป็นกาแฟใส่นมและช็อกโกแลต จึงมีรสชาติที่เข้มขมดุดันกว่า

 

มอคค่าต่างจากคาปูชิโน่อย่างไร

คาปูชิโน่มีต้นกำเนิดมาจากอิตาลี ส่วนมอคค่ามีต้นกำเนิดมาจากเยเมน ทั้งสองอย่างเป็นเครื่องดื่มที่ทำจากเอสเปรสโซ่ แต่มอคค่าจะมีส่วนผสมของช็อกโกแลตด้วยและราดด้วยฟองนมหรือวิปครีมหรือไม่ก็ได้ ส่วนคาปูชิโน่นั้นจะผสมนมสดและราดด้วยฟองนม จากนั้นอาจตกแต่งด้วยผงโกโก้หรือผงซินนามอนโรยบนฟองนมอีกที

 

เมนูมอคค่า คือกาแฟแก้วโปรดของคนรักกาแฟและช็อคโกแลต

 

 

 เมนูนี้ทำง่ายมากIced Mocha กดเซฟไว้เลย ใช้เครื่อง BN-3 Milk Touch เมนูไหนก็ชงได้ ใช้งานง่าย ใช้ได้ทั้ง กาเเฟบด เเคปซูลNespresso Dolce Gusto เเละใบชา เเค่1 นาที ได้ชาไทยหอม เข้มข้น พร้อมรับประกันตัวเครื่อง 1 ปี กดสั่งที่ตะกร้าได้เลย 🍫☕️✨

 

 

 

เมนูมอคค่าตอนนี้ฮิตสุด ๆ คาเฟ่หลายร้านเลยใส่ไอเดียสร้างสรรค์เพิ่มความพิเศษ เช่น วิปครีมกับช็อกโกแลตชิป มาร์ชเมลโลวางบนหน้าแล้วเบิร์นจนละลายหอมหวาน หรือเติมไซรัปวนิลา คาราเมล เพิ่มรสชาติให้กลมกล่อม หรือใส่ไอศกรีมลงบนมอคค่าร้อนเพื่อรสสัมผัสใหม่ ๆ ถ้าคุณชอบกาแฟ ลองสร้างเมนูมอคค่าแบบที่ใช่ในสไตล์คุณเองดู รับรองฟินทุกแก้ว!

 

คั่วเอง ชงเอง อร่อยเอง! ด้วยเครื่องชงกาแฟ Beno ให้คุณควบคุมทุกขั้นตอนในการชงกาแฟ ตั้งแต่การเลือกเมล็ดกาแฟ การปรับระดับการบด และอุณหภูมิในการชง ทำให้คุณได้ลิ้มลองกาแฟรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณ ตอนนี้มีโปรโมชั่นสุดพิเศษ ลด 200 บาท เมื่อใส่โค้ดลด BENOA200 สุดคุ้มเฉพาะคุณ ที่ Shopee Thailand สายกาแฟห้ามพลาด!

 

Beno


More articles