หม้อกาแฟ Moka Pot

รู้จักกับ Moka Pot พร้อมวิธีชงกาแฟด้วย Moka Pot น่าใช้

Apr 14, 2024Beno smartliving

ในโลกของกาแฟที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ชงกาแฟราคาแพง แถมบางอย่างก็มีขั้นตอนการใช้ที่ค่อนข้างยุงยาก แต่ก็มีอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ใช้งานง่ายสุด ๆ ให้ฟิลกาแฟสโลว์บาร์ แถมได้ผลลัพธ์ที่ไม่ธรรมดาเลย ก็คือ Moka Pot หม้อต้มกาแฟแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะราคาไม่สูง แถมมีขนาดกะทัดรัด และให้รสชาติดีเหมือนเราไปซื้อดื่มที่คาเฟ่หรูเลยทีเดียว มีร้านกาแฟหลายร้านที่บรรจุเมนูกาแฟที่ชงจาก Moka Pot เป็นหนึ่งในเมนูน้ำในคาเฟ่ และไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคอกาแฟหลายคน ที่ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ หรือระดับโปรถึงพากันหาหม้อ Moka Pot คู่ใจมาติดครัวไว้ทุกบ้าน

 

Moka Pot คือ

 

ทำความรู้จักกับ Moka Pot และต้นกำเนิดของ Moka Pot

Moka Pot มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี ในปี 1933 โดย Alfonso Bialetti นำอลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบาแต่นำความร้อนได้ดีมาออกแบบเป็นหม้อต้มกาแฟที่ใช้วิธีสกัดน้ำกาแฟโดยอาศัยแค่แรงดันจากการเดือดของน้ำเพื่อให้ใช้งานได้อย่างสะดวก แล้วผลิตภายใต้ชื่อ Moka Express โดยบริษัท Bialetti Industries เพื่อให้ทุกคนสามารถชงกาแฟดื่มได้ง่ายด้วย Moka Pot

 

Moka Pot ทำงานอย่างไร?

Moka Pot ทำงานโดยอาศัยหลักการง่าย ๆ ของแรงดันไอน้ำ เริ่มจากเราเติมน้ำลงในส่วนล่างของหม้อ (Boiler) ซึ่งจะมีวาล์วปล่อยแรงดันเพื่อความปลอดภัย จากนั้นวางกรวยใส่ผงกาแฟบด (Ground Coffee Basket) ไว้เหนือระดับน้ำ เมื่อนำหม้อไปตั้งบนเตาให้ความร้อน น้ำในส่วนล่างจะค่อยๆ เดือดและกลายเป็นไอน้ำ ไอน้ำที่เกิดขึ้นจะสร้างแรงดันสูงขึ้นภายในส่วนล่าง และดันน้ำร้อนผ่านผงกาแฟบดในกรวยขึ้นไปยังส่วนบนของหม้อ (Upper Chamber) ซึ่งเป็นที่เก็บกาแฟที่สกัดแล้ว กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นจนน้ำในส่วนล่างหมด ทำให้ได้กาแฟที่มีความเข้มข้นและมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์คล้ายเอสเพรสโซ แต่มีแรงดันในการสกัดที่ต่ำกว่า

 

รสชาติกาแฟจาก Moka Pot เป็นแบบไหน?

หม้อกาแฟ Moka Pot นั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมักถูกเปรียบเทียบว่าเป็น "ลูกผสม" ระหว่างกาแฟดริปและเอสเปรสโซ่ เพราะให้รสชาติที่เข้มข้น กลิ่นหอมชัด มีความเป็นบอดี้ (ความหนักแน่นในปาก) มากกว่ากาแฟดริป แต่ไม่เข้มข้นหรือมีครีม่าหนืดเท่ากับเอสเปรสโซ่จากเครื่องแรงดันสูง (Espresso Machine)

 

วิธีชงกาแฟด้วย Moka Pot

กาแฟที่ชงจาก Moka Pot นั้น ถึงจะให้รสชาติที่ใกล้เคียงกับการใช้ Espresso Machine แต่จะได้กาแฟที่มีปริมาณคาเฟอีนค่อนข้างสูง และรสชาติเข้มข้นมาก และยังสามารถชงได้ทีละหลายแก้ว เหมาะกับการชงเอสเพรสโซเพื่อเสิร์ฟอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่ถึง 5 นาที แม้การชงกาแฟด้วย Moka Pot จะทำได้ง่ายและรวดเร็ว ใช้อุปกรณ์ไม่มาก แต่ก็ต้องอาศัยทักษะในการชงและการเตรียมวัตถุดิบที่เหมาะสมจึงจะได้กาแฟที่ออกมารสชาติดี 

 

วิธีชงกาแฟด้วย Moka Pot มีจุดที่ต้องให้ความสำคัญเริ่มต้นตั้งแต่ลักษณะการบดเมล็ดกาแฟ จะต้องบดให้หยาบกว่าเมล็ดกาแฟที่ใช้ชงด้วยเครื่องเอสเปรสโซ่แต่ะละเอียดกว่ากาแฟดริป เมื่อเตรียมเมล็ดกาแฟเสร็จแล้ว มาดูวิธีการชงกันเลย

 

วิธีชงกาแฟด้วย Moka Pot

 

  1. ใช้เมล็ดกาแฟบด 6 กรัมต่อ 1 cup ถ้า Moka Pot 3 cup ก็เท่ากับต้องใช้เมล็ดกาแฟ 18 กรัม ลองดูที่ Moka pot ของคุณว่าต้องใช้ปริมาณเมล็ดกาแฟกี่กรัม
  2. นำเมล็ดกาแฟที่บดแล้วใส่ในกรวยสำหรับใส่ผงกาแฟของ Moka Pot เกลี่ยให้เรียบเสมอกัน และกดอัดเมล็ดกาแฟบดให้แน่น หากบดแน่นจะทำให้กาแฟที่ได้มีตะกอนน้อยลงและมีฟองครีมบนหน้าเยอะขึ้นด้วย
  3. เตมน้ำเปล่าลงไปในหม้อน้ำส่วนล่างของ Moka Pot โดยไม่ให้เกินวาวล์ที่เป็นปุ่มเล็ก ๆ ที่อยู่กลางหม้อ หากต้องการกาแฟที่มีความเข้มข้นมากขึ้น ก็สามารถลดปริมาณน้ำให้น้อยลงได้
  4. จากนั้นนำกรวยใส่เมล็ดกาแฟมาวางบนหม้อน้ำ แล้วประกอบเหยือกกาแฟไว้ด้านบน ประกอบให้ตรงล็อกและหมุนให้แน่นเพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำจากแรงดันในหม้อ
  5. เมื่อประกอบเรียบร้อย นำ Moka Pot ไปต้มโดยใช้ไฟปานกลาง แล้วรอ 3-4 นาที หรือจนน้ำเดือด น้ำจะถูกดันขึ้นมาด้วยแรงดันผ่านเมล็ดกาแฟในกรวย แล้วไหลออกไปที่เหยือกกาแฟด้านบน
  6. เมื่อกาแฟถูกดันออกมาได้ประมาณครึ่งหนึ่ง ให้ปิดเตาหรือยก Moka Pot ออกจากเตา
  7. รอจนน้ำถูกดันออกมาจนหมด และหยุดไหลออกมา ก็จะได้กาแฟสกัดที่มีความเข้มข้นใกล้เคียงกับการใช้ Espresso Machine พร้อมเสิร์ฟแล้ว

 

Moka Pot ยี่ห้อไหนดี

 

Moka Pot ยี่ห้อไหนดี

 

ถึงแม้ Moka Pot จะกำเนิดมานานมากแล้ว แต่ก็ยังได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในปัจจุบันก็มี Moka Pot หลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยม จะมียี่ห้อไหนบ้าง วันนี้มีมาแนะนำกัน

 

1. Bialetti Moka Pot

เป็นหม้อต้มกาแฟ Moka Pot จากประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นยี่ห้อแรกที่ถือกำเนิดขึ้น และยังจำหน่ายมาถึงปัจจุบัน และมีหลายรุ่นหลายขนาดให้เลือก สามารถใช้ได้ทั้งกับเตาไฟฟ้าและเตาแก๊ส ดีไซน์คลาสสิก แต่ไม่ล้าสมัย มีความแข็งแรงทนทานใช้งานได้นาน ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง

 

2. Atom

หม้อต้มกาแฟ Moka Pot จากประเทศไทย ที่มีให้เลือกหลายแบบ หลายขนาด ราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับซื้อใช้ในครัวเรือน หาซื้อก็ง่าย มีอะไหล่ขาย หรือมีขายเป็นชุดแบบพร้อมชงดื่ม มือใหม่สามารถทดลองซื้อมาชงได้ในราคาไม่เกิน 1 ใบเทา แถมยังมีโปรสินค้ามีตำหนิราคาพิเศษอยู่เรื่อย ๆ 

 

3. Alechaung

หม้อต้มกาแฟจากประเทศจีน เป็นยี่ห้อที่ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายชนิด สำหรับ Moka Pot ก็มีให้เลือกหลายขนาด หลายดีไซน์ทั้งแบบคลาสสิกหรือโมเดิร์น น้ำหนักเบามีความทนทาน และราคาไม่แพง ที่สำคัญหาซื้อได้ง่ายในร้านค้าออนไลน์ทั่วไป และยังมีอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ให้เลือกซื้อ เรียกได้ว่ายี่ห้อเดียวครบ ชงดื่มได้เลย

 

4. Moka Espresso Pot 

หม้อ Moka Pot ขนาดใหญ่ ชงทีเดียวได้หลายแก้ว แข็งแรงทนทานผลิตจากสแตนเลส และสามารถพับด้านจับเก็บได้ รูปลักษณ์เรียบหรู สวยงาม ไม่ได้เป็นลักษณะเหลี่ยมแบบคลาสสิก หาซื้อได้ง่ายในร้านค้าออนไลน์เช่นกัน

 

5. Scanproducts 

เป็นหม้อ Moka Pot ขนาดใหญ่อีกรุ่นหนึ่ง เป็นดีไซน์เหลี่ยมแบบคลาสสิก สามารถชงครั้งเดียวได้หลายแก้ว และน้ำหนักไม่มากนัก หากใครกำลังมองหาหม้อต้มกาแฟ Moka Pot สำหรับครอบครัว ยี่ห้อนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

 

วิธีเลือก Moka Pot อย่างไรให้โดนใจ

 

Moka Pot

 

หากกำลังสนใจเลือกซื้อ Moka Pot มาใช้สักอัน ต้องดูปัจจัยอะไรบ้าง เพราะในท้องตลาดก็มีให้เลือกหลายแบบ หลายดีไซน์ มาดูกันเลยว่าต้องพิจารณาอะไรบ้างเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของเรา

 

1. ความจุ

Moka Pot จะมีขนาดให้เลือกซึ่งขนาดจะทำให้ได้ปริมาณน้ำกาแฟแตกต่างกัน ส่วนใหญ่จะระบุเป็น cup 2, 3 4, 6 cups ใน 1 cup จะมีปริมาณ 60 มล. เหมาะสำหรับดื่ม 1 คน ดังนั้นลองคำนวณดูว่าเราต้องการชงกาแฟเพื่อดื่มกี่คน หรือครั้งละกี่แก้ว

 

2. วัสดุ

หม้อ Moka Pot มักจะผลิตจากอลูมิเนียมหรือสแตนเลส ซึ่งสแตนเลสจะมีราคาสูงกว่าแต่ทนทานและทำความสะอาดง่าย แต่ก็จะมีน้ำหนักมากกว่า ไม่สะดวกกับการพกพา 

 

3. เตาที่ใช้ต้ม

หม้อแต่ละชนิดสามารถใช้ได้กับเตาที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเตาแก๊ส เตาไฟฟ้าหรือเตาแม่เหล็กไฟฟ้า หากใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้า อาจต้องเลือก Moka Pot ที่ผลิตจากสแตนเลส หรือถ้าใช้เตาแก๊สควรเลือก Moka Pot ที่ทำจากอะลูมิเนียม

 

Moka Pot ต่างจากเครื่องชงกาแฟยังไง

Moka Pot

  • หลักการทำงาน : ใช้วิธีสกัดกาแฟด้วยแรงดันไอน้ำ จากน้ำเดือดที่อยู่ฐาน

  • รสชาติกาแฟ : ระดับความเข้มข้นของกาแฟ จะอยู่ระหว่างกาแฟดริปกับเอสเปรสโซ่ มีกลิ่นหอม และรสชาติเข้มข้นเท่าเอสเปรสโซ่

  • ความสะดวกในการใช้งาน : ใช้งานง่าย ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ใช้แค่เตาแก๊ส หรือ Moka Pot บางแบบก็สามารถใช้กับเตาไฟฟ้าได้

  • ความคล่องตัว : พกพาง่าย น้ำหนักเบา สามารถนำไปใช้ได้ทุกที่ที่ต้องการ เหมาะกับสายแคมป์ปิ้งสุด ๆ 

  • ราคา : ราคาไม่แพง และมีหลากหลายราคาให้เลือก ตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพัน

  • การทำความสะอาด : ทำความสะอาดง่าย เพียงแค่ล้างด้วยน้ำเปล่า และเช็ดให้แห้ง ไม่ต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดก็ได้ ทำสะอาดง่ายกว่าเครื่องชงกาแฟ

 เครื่องชงกาแฟทั่วไป

  • หลักการทำงาน : เครื่องชงกาแฟมีหลายรูปแบบ มักมาพร้อมฟังก์ชันเยอะ ตั้งแต่ปรับอุณหภูมิ ปรับความแรงของกาแฟ หรือในบางรุ่นมีฟังก์ชันที่สามารถทำฟองนมได้ในเครื่องเดียว

  • รสชาติกาแฟ : รสชาติจะแตกต่างกันไปตามประเภทของเครื่อง เช่น เครื่องดริปจะได้กาแฟที่รสบางเบา ส่วนเครื่องเอสเปรสโซจะได้กาแฟที่เข้มข้นที่สุด

  • ความสะดวกในการใช้งาน : ต้องใช้ไฟฟ้า มีปุ่มกดหรือฟังก์ชันที่หลากหลาย อาจจะซับซ้อนกว่าในบางรุ่น   

  • ความคล่องตัว : ส่วนใหญ่มีขนาดใหญ่ และต้องมีปลั๊กไฟเพื่อใช้งาน ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในบ้านหรือร้านกาแฟมากกว่า ยากที่จะพกพาไปในสถานที่ต่าง ๆ 

  • ราคา : เครื่องชงกาแฟราคาค่อนข้างสูงกว่า Moka Pot โดยเฉพาะเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติหรือเครื่องชงเอสเปรสโซแบบโปร

  • การทำความสะอาด : เครื่องชงกาแฟทำความสะอาดค่อนข้างยุ่งยากกว่า Moka Pot โดยเฉพาะส่วนที่เป็นระบบไฟฟ้าหรือหัวชงที่ซับซ้อน ต้องคอยแยกชิ้นส่วน ล้างให้สะอาด

 

สัมผัสรสชาติกาแฟแท้ ๆ จาก Moka Pot ทำเองง่าย ๆ ที่บ้าน ไม่ต้องง้อคาเฟ่

ไม่ว่าจะเป็นคอกาแฟมือใหม่ หรือคอกาแฟตัวยง เพียงแค่มี Moka Pot ก็สามารถดื่มด่ำกับกาแฟแก้วอร่อยได้ทุกวัน โดยได้กาแฟที่เข้มข้น ไม่แพ้เครื่องชงเอสเพรสโซ่เลย แถมยังสามารถปรับความเข้มข้นได้ตามชอบ เพียงแค่เพิ่มหรือลดปริมาณน้ำเท่านั้นเอง เรียกได้ว่า หม้อ Moka Pot ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องชงราคาเบา ๆ ที่ควรมีติดบ้านไว้ และเพื่อให้ได้กาแฟที่อร่อยลงตัวมากขึ้น ต้องมีเมล็ดกาแฟดี ๆ เราแนะนำเมล็ดกาแฟ Beno เลย ที่คัดสรรมาแล้วอย่างดี เหมาะกับการชงด้วย Moka Pot ที่สุด รับรองว่าได้กาแฟหอม ๆ รสชาติกลมกล่อมแน่นอน และตอนนี้สามารถช้อปผลิตภัณฑ์ หรืออุปกรณ์ชงกาแฟ จาก Beno ได้ที่ Shopee Thailand พร้อมรับ ส่วนลดพิเศษ 200 บาท เมื่อใช้โค้ด BENOA200 พร้อมเติมเต็มกาแฟแก้วโปรดให้อร่อยเข้มข้น ฟินได้ทุกวันแบบง่าย ๆ จาก Beno!

 

เครื่องชงกาแฟ


More articles