Moka Pot หม้อต้มกาแฟแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะราคาไม่สูง และให้รสชาติดีเหมือนเราไปซื้อดื่มที่คาเฟ่หรูเลยทีเดียว มีร้านกาแฟหลายร้านที่บรรจุเมนูกาแฟที่ชงจาก Moka Pot เป็นหนึ่งในเมนูของร้าน และคอกาแฟหลายคนทั้งมือใหม่และมือเก๋าต่างก็พากันหา Moka Pot คู่ใจมาติดบ้านไว้
ทำความรู้จักกับ Moka Pot และต้นกำเนิดของ Moka Pot
Moka Pot มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี ในปี 1933 โดย Alfonso Bialetti นำอลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบาแต่นำความร้อนได้ดีมาออกแบบเป็นหม้อต้มกาแฟที่ใช้วิธีสกัดน้ำกาแฟโดยอาศัยแค่แรงดันจากการเดือดของน้ำเพื่อให้ใช้งานได้อย่างสะดวก แล้วผลิตภายใต้ชื่อ Moka Express โดยบริษัท Bialetti Industries เพื่อให้ทุกคนสามารถชงกาแฟดื่มได้ง่ายด้วย Moka Pot
วิธีชงกาแฟด้วย Moka Pot
กาแฟที่ชงจาก Moka Pot นั้น ถึงจะให้รสชาติที่ใกล้เคียงกับการใช้ Espresso Machine แต่จะได้กาแฟที่มีปริมาณคาเฟอีนค่อนข้างสูง และรสชาติเข้มข้นมาก และยังสามารถชงได้ทีละหลายแก้ว เหมาะกับการชงเอสเพรสโซเพื่อเสิร์ฟอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่ถึง 5 นาที แม้การชงกาแฟด้วย Moka Pot จะทำได้ง่ายและรวดเร็ว ใช้อุปกรณ์ไม่มาก แต่ก็ต้องอาศัยทักษะในการชงและการเตรียมวัตถุดิบที่เหมาะสมจึงจะได้กาแฟที่ออกมารสชาติดี
วิธีชงกาแฟด้วย Moka Pot มีจุดที่ต้องให้ความสำคัญเริ่มต้นตั้งแต่ลักษณะการบดเมล็ดกาแฟ จะต้องบดให้หยาบกว่าเมล็ดกาแฟที่ใช้ชงด้วยเครื่องเอสเปรสโซ่แต่ะละเอียดกว่ากาแฟดริป เมื่อเตรียมเมล็ดกาแฟเสร็จแล้ว มาดูวิธีการชงกันเลย
- ใช้เมล็ดกาแฟบด 6 กรัมต่อ 1 cup ถ้า Moka Pot 3 cup ก็เท่ากับต้องใช้เมล็ดกาแฟ 18 กรัม ลองดูที่ Moka pot ของคุณว่าต้องใช้ปริมาณเมล็ดกาแฟกี่กรัม
- นำเมล็ดกาแฟที่บดแล้วใส่ในกรวยสำหรับใส่ผงกาแฟของ Moka Pot เกลี่ยให้เรียบเสมอกัน และกดอัดเมล็ดกาแฟบดให้แน่น หากบดแน่นจะทำให้กาแฟที่ได้มีตะกอนน้อยลงและมีฟองครีมบนหน้าเยอะขึ้นด้วย
- เตมน้ำเปล่าลงไปในหม้อน้ำส่วนล่างของ Moka Pot โดยไม่ให้เกินวาวล์ที่เป็นปุ่มเล็ก ๆ ที่อยู่กลางหม้อ หากต้องการกาแฟที่มีความเข้มข้นมากขึ้น ก็สามารถลดปริมาณน้ำให้น้อยลงได้
- จากนั้นนำกรวยใส่เมล็ดกาแฟมาวางบนหม้อน้ำ แล้วประกอบเหยือกกาแฟไว้ด้านบน ประกอบให้ตรงล็อกและหมุนให้แน่นเพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำจากแรงดันในหม้อ
- เมื่อประกอบเรียบร้อย นำ Moka Pot ไปต้มโดยใช้ไฟปานกลาง แล้วรอ 3-4 นาที หรือจนน้ำเดือด น้ำจะถูกดันขึ้นมาด้วยแรงดันผ่านเมล็ดกาแฟในกรวย แล้วไหลออกไปที่เหยือกกาแฟด้านบน
- เมื่อกาแฟถูกดันออกมาได้ประมาณครึ่งหนึ่ง ให้ปิดเตาหรือยก Moka Pot ออกจากเตา
- รอจนน้ำถูกดันออกมาจนหมด และหยุดไหลออกมา ก็จะได้กาแฟสกัดที่มีความเข้มข้นใกล้เคียงกับการใช้ Espresso Machine พร้อมเสิร์ฟแล้ว
Moka Pot ยี่ห้อไหนดี
ถึงแม้ Moka Pot จะกำเนิดมานานมากแล้ว แต่ก็ยังได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในปัจจุบันก็มี Moka Pot หลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยม จะมียี่ห้อไหนบ้าง วันนี้มีมาแนะนำกัน
Bialetti Moka Pot
เป็นหม้อต้มกาแฟ Moka Pot จากประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นยี่ห้อแรกที่ถือกำเนิดขึ้น และยังจำหน่ายมาถึงปัจจุบัน และมีหลายรุ่นหลายขนาดให้เลือก สามารถใช้ได้ทั้งกับเตาไฟฟ้าและเตาแก๊ส ดีไซน์คลาสสิก แต่ไม่ล้าสมัย มีความแข็งแรงทนทานใช้งานได้นาน ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง
Atom
หม้อต้มกาแฟ Moka Pot จากประเทศไทย ที่มีให้เลือกหลายแบบ หลายขนาด ราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับซื้อใช้ในครัวเรือน หาซื้อก็ง่าย มีอะไหล่ขาย หรือมีขายเป็นชุดแบบพร้อมชงดื่ม มือใหม่สามารถทดลองซื้อมาชงได้ในราคาไม่เกิน 1 ใบเทา แถมยังมีโปรสินค้ามีตำหนิราคาพิเศษอยู่เรื่อย ๆ
Alechaung
หม้อต้มกาแฟจากประเทศจีน เป็นยี่ห้อที่ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายชนิด สำหรับ Moka Pot ก็มีให้เลือกหลายขนาด หลายดีไซน์ทั้งแบบคลาสสิกหรือโมเดิร์น น้ำหนักเบามีความทนทาน และราคาไม่แพง ที่สำคัญหาซื้อได้ง่ายในร้านค้าออนไลน์ทั่วไป และยังมีอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ให้เลือกซื้อ เรียกได้ว่ายี่ห้อเดียวครบ ชงดื่มได้เลย
Moka Espresso Pot
หม้อ Moka Pot ขนาดใหญ่ ชงทีเดียวได้หลายแก้ว แข็งแรงทนทานผลิตจากสแตนเลส และสามารถพับด้านจับเก็บได้ รูปลักษณ์เรียบหรู สวยงาม ไม่ได้เป็นลักษณะเหลี่ยมแบบคลาสสิก หาซื้อได้ง่ายในร้านค้าออนไลน์เช่นกัน
Scanproducts
เป็นหม้อ Moka Pot ขนาดใหญ่อีกรุ่นหนึ่ง เป็นดีไซน์เหลี่ยมแบบคลาสสิก สามารถชงครั้งเดียวได้หลายแก้ว และน้ำหนักไม่มากนัก หากใครกำลังมองหาหม้อต้มกาแฟ Moka Pot สำหรับครอบครัว ยี่ห้อนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
วิธีเลือก Moka Pot
หากกำลังสนใจเลือกซื้อ Moka Pot มาใช้สักอัน ต้องดูปัจจัยอะไรบ้าง เพราะในท้องตลาดก็มีให้เลือกหลายแบบ หลายดีไซน์ มาดูกันเลยว่าต้องพิจารณาอะไรบ้างเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของเรา
ความจุ
Moka Pot จะมีขนาดให้เลือกซึ่งขนาดจะทำให้ได้ปริมาณน้ำกาแฟแตกต่างกัน ส่วนใหญ่จะระบุเป็น cup 2, 3 4, 6 cups ใน 1 cup จะมีปริมาณ 60 มล. เหมาะสำหรับดื่ม 1 คน ดังนั้นลองคำนวณดูว่าเราต้องการชงกาแฟเพื่อดื่มกี่คน หรือครั้งละกี่แก้ว
วัสดุ
หม้อ Moka Pot มักจะผลิตจากอลูมิเนียมหรือสแตนเลส ซึ่งสแตนเลสจะมีราคาสูงกว่าแต่ทนทานและทำความสะอาดง่าย แต่ก็จะมีน้ำหนักมากกว่า ไม่สะดวกกับการพกพา
เตาที่ใช้ต้ม
หม้อแต่ละชนิดสามารถใช้ได้กับเตาที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเตาแก๊ส เตาไฟฟ้าหรือเตาแม่เหล็กไฟฟ้า หากใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้า อาจต้องเลือก Moka Pot ที่ผลิตจากสแตนเลส หรือถ้าใช้เตาแก๊สควรเลือก Moka Pot ที่ทำจากอะลูมิเนียม
Moka Pot ต่างจากเครื่องชงกาแฟยังไง
Moka Pot เป็นเครื่องชงกาแฟแบบหนึ่ง ที่ให้รสชาติเข้มข้นคล้ายกับการชงด้วยเครื่องเอสเพรสโซ่ และไม่ต้องใช้ไฟฟ้า จึงสะดวกต่อการพกพาหรือสายแคมป์ปิ้ง อุปกรณ์ที่ต้องใช้ก็มีแค่เครื่องบดเมล็ดกาแฟ การดูแลรักษาก็ง่าย สามารถถอดล้างได้เลย ส่วนเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ จะต้องใช้อุปกรณ์และการดูแลรักษาที่มากกว่า
เพียงแค่มี Moka Pot ก็สามารถดื่มด่ำกับกาแฟแก้วอร่อยได้ทุกวัน โดยได้กาแฟที่เข้มข้น ไม่แตกต่างกับเครื่องชงแบบเอสเพรสโซ่เลย ถ้าอยากได้กาแฟที่มีความเข้มข้นมากหรือน้อยลงก็สามารถปรับเพิ่มลดปริมาณน้ำได้ด้วย หม้อ Moka Pot ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องชงที่ราคาไม่แรง สามารถซื้อติดบ้านไว้ได้ง่าย ๆ
สัมผัสประสบการณ์ใหม่ด้วยเครื่องชงกาแฟ Beno ชงกาแฟได้หลากหลายแบบ ทั้งเอสเปรสโซ่ คาปูชิโน่ อเมริกาโน่ ลาเต้ หรือจะดริปก็ได้หมด แถมยังปรับตั้งอุณหภูมิและระดับน้ำได้ตามใจชอบ ครบฟังก์ชันสำหรับบาริสต้ามืออาชีพ ไปสนุกกับการสร้างสรรค์กาแฟสูตรใหม่ ๆ ได้ทุกวัน พร้อมส่วนลดเต็ม ๆ 200 บาท เมื่อใช้โค้ด BENOA200 ที่ Shopee Thailand