วิธีชงกาแฟสด

รวม 10 วิธีชงกาแฟสดทั้งแบบใช้เครื่องและไม่ใช้เครื่อง

Jan 24, 2024Beno smartliving

กาแฟสดกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่หลายคนขาดไม่ได้ ต้องได้เริ่มต้นวันใหม่แบบสดใสด้วยกาแฟสดสักแก้ว เพื่อเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า กาแฟสดเป็นกาแฟที่ได้จากการชงจากเมล็ดกาแฟ 100% ซึ่งจะมีกลิ่นหอมที่แตกต่างจากกาแฟแบบพร้อมชงหรือ Instant Coffee และราคาก็สูงกว่าเช่นกัน หลายคนจึงต้องหันมาชงกาแฟสดเอง เพื่อลดค่าใช้จ่าย เพียงคุณอ่านบทความนี้ก็จะได้เทคนิควิธีชงกาแฟสดง่าย ๆ ไว้ทำกินเองที่บ้าน ไม่ต้องเสียเงินค่ากาแฟแพงอีกต่อไป

 

กาแฟสด คืออะไร

กาแฟสดคือ กาแฟที่ได้จากการชงจากเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วในระดับต่าง ๆ เช่น คั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วเข้ม และนำมาบดตามความละเอียดที่ต้องการ จากนั้นจึงนำเมล็ดกาแฟคั่วบดมาชง จึงทำให้ได้รสชาติของกาแฟที่เข้มข้น และกลิ่นหอมมากกว่ากาแฟแบบพร้อมชง

 

วิธีชงกาแฟสดแบบใช้เครื่อง

 

 

วิธีชงกาแฟสดด้วยเครื่องเอสเปรสโซ่

 

 

1. วิธีชงกาแฟสดด้วยเครื่องเอสเปรสโซ่

ปัจจุบันในท้องตลาดมีเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่ให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ ทั้งขนาดเล็กที่ใช้ในครัวเรือนไปจนถึงขนาดใหญ่ชงพร้อมกันได้หลายหัวสำหรับร้านกาแฟ วิธีชงกาแฟสดก็ไม่ยาก เพียงแค่นำเมล็ดกาแฟบดละเอียดใส่ไปที่ก้านชงตามปริมาณ แล้วนำไปใส่ในเครื่องเอสเปรสโซ่ จากนั้นก็กดปุ่มให้เครื่องทำงานโดยเครื่องจะดันน้ำร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสมให้ไหลผ่านเมล็ดกาแฟที่อยู่ในก้านชงออกมาเป็นกาแฟเอสเปรสโซ่เข้มข้น หอมอร่อย และสามารถนำไปปรุงเป็นเมนูกาแฟต่าง ๆ ได้


เครื่องชงเอสเปรสโซ่เหมาะกับคนที่ชอบดื่มกาแฟเอสเปรสโซ่แบบเข้ม ๆ หรือผู้ที่ชอบปรุงกาแฟเมนูอื่นด้วยตนเอง โดยเติมส่วนผสมเช่น นม ช็อคโกแลต น้ำผลไม้ หรือไซรัปเข้าไป ดังนั้นหากคุณต้องการดื่มกาแฟหวานมันในรสชาติที่ชื่นชอบก็ต้องใช้เวลาเตรียมวัตถุดิบและปรุงกาแฟสักหน่อย


2. วิธีชงกาแฟสดด้วยเครื่องชงแบบแคปซูล

เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลเป็นที่นิยมใช้มากในบ้านหรือสำนักงาน เพราะสะดวกรวดเร็ว และมีให้เลือกหลายเมนูโดยไม่ต้องปรุงเพิ่มเอง ระบบการทำงานคือนำเมล็ดกาแฟไปบดก่อน แล้วนำมาบรรจุในแคปซูลเพื่อรักษารสชาติของเมล็ดกาแฟ เมื่อชงกาแฟก็เพียงแค่นำแคปซูลใส่ลงไปในตัวเครื่อง แล้วตัวเครื่องจะเจาะฝาแคปซูลจากนั้นดันน้ำร้อนให้ผ่านเมล็ดกาแฟที่อยู่ในแคปซูลออกมาเป็นกาแฟ


เครื่องชงแบบแคปซูลนี้เหมาะกับคนที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว ราคาเครื่องไม่สูงมากจึงเป็นที่นิยม และในท้องตลาดมีแคปซูลกาแฟให้เลือกหลายรสชาติ ทั้งอเมริกาโน ลาเต้ คาปูชิโน่ ฯลฯ รวมถึงเมนูเครื่องดื่มอื่นๆ อย่างชาเขียว หรือช็อคโกแลตก็มีบรรจุแคปซูลขายด้วย นอกจากนั้นยังดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องทำความสะอาดมาก เพียงแค่เอาแคปซูลออกจากเครื่องก็สามารถใช้ต่อได้เลย แต่เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลก็ให้รสชาติ ความสดใหม่ของกาแฟสู้เครื่องชงแบบเอสเปรสโซ่ไม่ได้ และเลือกเมล็ดกาแฟได้เฉพาะที่มีบรรจุแคปซูลขายเท่านั้น

 

3. วิธีชงกาแฟสดด้วยเครื่องอัตโนมัติ

เครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในร้านอาหาร หรือออฟฟิศ เพราะสามารถชงกาแฟทุกเมนูได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่เติมเมล็ดกาแฟ และส่วนผสมอื่น ๆ เช่น นม โกโก้ น้ำตาล ลงไปในเครื่อง จากนั้นก็กดปุ่มเลือกเมนูที่ต้องการได้เลย โดยเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติแต่ละรุ่นก็จะมีเมนูที่ทำได้มากน้อยต่างกัน


เครื่องชงกาแฟแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบความยุ่งยาก และต้องการดื่มกาแฟหลายรสชาติ หลายเมนูโดยไม่ต้องเสียเวลาปรุงให้วุ่นวาย นอกจากนั้นยังทำความสะอาดง่าย และสามารถเลือกเมล็ดกาแฟที่ชื่นชอบได้เอง

 

moka pot


4. วิธีชงกาแฟสดด้วยโมก้าพอท (Moka Pot)

โมก้าพอทเป็นเครื่องชงกาแฟจากประเทศอิตาลี คิดค้นโดย ลุยจี เดอ ปอนติ ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ที่ชื่นชอบกาแฟเข้ม โมก้าพอทมีลักษณะคล้ายกาผลิตจากสแตนเลส วิธีการชงก็คือใส่น้ำลงไปในหม้อจนถึงระดับที่แนะนำ จากนั้นใส่กรวยกาแฟและเมล็ดกาแฟบดลงไปแล้วปิดฝา นำกาไปต้มจนน้ำร้อน และจะมีไอน้ำดันพุ่งขึ้นผ่านเมล็ดกาแฟ แล้วปิดไฟรออีกสักพักให้น้ำกาแฟถูกดันขึ้นมาอยู่ด้านบน ก็จะได้กาแฟที่พร้อมดื่มแล้ว


ปัจจุบันโมก้าพอทเป็นวิธีชงกาแฟที่ได้รับความนิยมทั้งร้านคาเฟ่ มีร้านคาเฟ่หลายร้านที่เปิดให้บริการเฉพาะกาแฟที่ชงด้วยโมก้าพอทเพียงอย่างเดียว หรือใช้ครัวเรือน เนื่องจากโมก้าพอทหาซื้อง่าย ราคามีตั้งแต่ราคาถูกไปจนสูง และวิธีการชงก็ไม่ยาก เพียงแค่มีเมล็ดกาแฟบด โมก้าพอท และเตาก็ดื่มกาแฟสดได้แล้ว เพียงแค่ต้องใช้เวลาชงและทำความสะอาดอุปกรณ์มากกว่าเครื่องชงกาแฟแบบอื่นที่กล่าวมา

 

French press coffee

 

5. วิธีชงกาแฟสดด้วยเครื่องเฟรนช์เพรส (French Press)

เครื่องชงกาแฟแบบเฟรนช์เพรส เป็นเครื่องชงกาแฟที่ใช้แรงดันอากาศในการชง โดยเครื่องเฟรนช์เพรสจะเป็นกาสูงสำหรับใส่เมล็ดกาแฟบดและน้ำร้อน และจะมีตัวกดเป็นตะแกรง เมื่อใส่เมล็ดกาแฟและน้ำลงไปแล้ว ให้ใส่ตัวกดลงไปแล้วค่อย ๆ กดลงจนสุดกา ก็ได้กาแฟพร้อมดื่มแล้ว


เครื่องชงกาแฟแบบเฟรสช์เพรสนี้ก็สามารถชงดื่มได้ง่าย ๆ โดยใช้เมล็ดกาแฟบดหยาบ เพื่อไม่ให้เมล็ดกาแฟหลุดผ่านตัวกรองออกมา การชงกาแฟแบบนี้ให้กาแฟที่เข้มข้น สดชื่น หอมอร่อย แต่ต้องใช้เวลาเช่นเดียวกับโมก้าพอท


6. วิธีชงกาแฟสดด้วยเครื่องไซฟอน (Siphon)

ไซฟอนเป็นเครื่องชงกาแฟอีกแบบที่ใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่าไซฟอน ซึ่งลักษณะจะคล้ายตะเกียงในห้องทดลองวิทยาศาสตร์ เครื่องไซฟอนประกอบด้วยโถแก้วทรงกลมสำหรับใส่น้ำ และโถแก้วกรงกระบอกสำหรับใส่เมล็ดกาแฟ โดยนำน้ำใส่โถลูกแก้วให้เดือดจัด ใส่เมล็ดกาแฟบดลงในโถแก้วที่มีตัวกรองอยู่ตรงกัน น้ำเดือดจะถูกดันผลักขึ้นไปบนโถกาแฟผ่านเมล็ดกาแฟ และเมื่อปิดไฟน้ำกาแฟที่อยู่ในโถกาแฟก็จะไหลกลับลงสู่โถทรงกลมด้านล่าง 


การชงกาแฟแบบไซฟอนต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่ข้อดีคือให้กาแฟที่กลิ่นหอมชัดเจน และวิธีชงกาแฟสดแบบนี้ก็ยังดูน่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้ร้านกาแฟหลายร้านนำเครื่องไซฟอนมาเป็นจุดขาย

 

7. วิธีชงกาแฟสดด้วยเครื่องแอโรเพรส (Aeropress)

เครื่องชงกาแฟแอโรเพรสถูกคิดค้นโดยอลัน แอดเลอร์ เมื่อปี 2005 มีลักษณะเป็นท่อสองชิ้นประกอบกันคล้ายไซรินจ์ วิธีชงกาแฟสดแบบนี้ คือนำเมล็ดกาแฟบดใส่ลงในท่อบน แล้วรินน้ำร้อนตามลงไป จากนั้นปิดท่อด้วยกระดาษกับฝาตะแกรงแล้วรอ พอได้เวลาก็จับท่อด้านบนพลิกใส่แก้ว แล้วกดอีกท่อลงมาเหมือนกับเข็มฉีดยาแรงดันอากาศก็จะดันน้ำกาแฟออกมา


เครื่องชงกาแฟแอโรเพรสเป็นที่นิยมในหมู่นักเดินทางด้วยขนาดที่เล็ก พกพาง่าย น้ำหนักเบา และตัวเครื่องทำจากพลาสติกจึงเหมาะกับการใส่กระเป๋าเดินทางมาก

 


วิธีชงกาแฟสดแบบไม่ใช้เครื่อง

หากคุณอยากดื่มกาแฟใสแต่ไม่มีเครื่องหรืออุปกรณ์แบบที่บอกไปแล้วนั้น ก็ยังมีวิธีชงกาแฟสดแบบไม่ใช้เครื่องอีก

 

1. วิธีชงกาแฟสดบนเตา

หลักการชงกาแฟก็คือนำเมล็ดที่คั่วบดไปผ่านน้ำร้อน จนสารในเมล็ดกาแฟออกมาผสมกับน้ำได้เป็นน้ำกาแฟ ดังนั้นถ้าคุณไม่มีอุปกรณ์สำหรับชงกาแฟก็สามาถชงกาแฟด้วยหม้อกับเตาที่บ้านได้เช่นกัน โดยต้มน้ำในหม้อให้เดือด แล้วนำเมล็ดกาแฟใส่ลงไป แล้วคนเพื่อไม่ให้จับเป็นก้อนหรือติดก้นหม้อ ใช้เวลาต้มประมาณ 3 นาที จากนั้นนำหม้อที่ต้มกาแฟมาพักไว้เพื่อให้เมล็ดกาแฟตกตะกอน แล้วเทเฉพาะน้ำกาแฟใส่แก้ว หรือกรองตะกอนออกก็ได้

วิธีการชงกาแฟสดแบบนี้สะดวกสามารถใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ในบ้านได้เลย แต่ยุ่งยากในเรื่องการควบคุมสัดส่วน ความร้อนของน้ำ และรสชาติของกาแฟ

 

coffee drip

 

2. วิธีชงกาแฟสดแบบดริป

การชงกาแฟแบบดริปมีทั้งการใช้เครื่องดริปหรือใช้เพียงแค่กระดาษกรองกับภาชนะทนความร้อน หรือกาแฟสดแบบดริปบรรจุแพคเกจพร้อมชงที่มีลักษณะเป็นกระดาษกรองกาแฟสำหรับดริป หากใช้หม้อดริปก็มีอุปกรณ์ขายเป็นชุดอยู่มากมาย หลักการก็ง่าย แค่เพียงต้มน้ำร้อน แล้วค่อย ๆ เทน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วบดที่ใส่ในกระดาษกรอง ให้ไหลผ่านลงสู่ภาชนะด้านล่าง แล้วเสิร์ฟได้เลย หากเป็นกาแฟดริปแบบพร้อมชงก็ยิ่งสะดวกขึ้นไปอีก ลักษณะจะเป็นกาแฟบรรจุใส่ซองกระดาษคล้ายกับชา แต่จะมีที่สำหรับเกี่ยวกับขอบแก้ว วิธีชงก็แค่เตรียมแก้วกาแฟ ฉีกซอง แล้วนำที่เกี่ยวเกี่ยวกับขอบแก้วด้านใน จากนั้นนำน้ำร้อนมาเทใส่เมล็ดกาแฟในถุงให้น้ำร้อนไหลผ่านเมล็ดกาแฟผ่านกระดาษกรองลงสู่แก้ว ก็ได้กาแฟสดแบบง่ายดายมาก

กาแฟดริปแบบพร้อมชงสะดวกมาก สามารถพกพาไปได้ทุกที่ แค่หาน้ำร้อนก็ได้กินกาแฟสดอร่อย ๆ แล้ว และปัจจุบันก็มีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกซื้อ

 

cold brew

 

3. วิธีชงกาแฟสดแบบสกัดเย็น (Cold brew)

วิธีชงกาแฟแบบสกัดเย็นก็ง่าย แถมยังได้กาแฟสดรสนุ่มละมุน เก็บไว้ได้นาน แค่นำเมล็ดกาแฟบดใส่ในขวด แล้วใส่น้ำ คนเบา ๆ ให้เมล็ดกาแฟโดนน้ำอย่างทั่วถึง ปิดฝาให้สนิทแล้วนำไปแช่เย็น 12-24 ชั่วโมง จากนั้นนำกาแฟที่ได้มากรองเมล็ดกาแฟออก ก็ได้กาแฟสกัดเย็นชื่นใจแล้ว กาแฟสกัดเย็นสามารถแช่ตู้เย็นเก็บไว้โดยรสชาติไม่เปลี่ยนได้นานถึงสองอาทิตย์
 
วิธีชงกาแฟสกัดเย็นทำได้ง่าย สามารถพกพาไปดื่มนอกบ้านได้ หรือชงตุนไว้สำหรับวันที่เร่งรีบ แต่ก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้กาแฟสดดี ๆ สักแก้วหนึ่ง วิธีชงกาแฟสดก็มีหลากหลายวิธีซึ่งแต่ละวิธีก็ให้รสชาติที่แตกต่างกัน และเหมาะกับเมล็ดกาแฟ รวมถึงระดับการคั่วบดที่แตกต่างกัน ดังนั้นหากต้องการชงกาแฟสดดื่มที่บ้านก็ต้องหารสชาติที่ชอบ เพื่อจะได้เลือกเครื่องชง หรือวิธีชงกาแฟสดที่ถูกใจ รับรองว่าเมื่อได้ลิ้มรสกาแฟสดแล้ว ก็จะทำให้ลืมรสชาติกาแฟแบบเดิม ๆ ไปเลย

 

เทคนิค (ไม่ลับ) วิธีชงกาแฟสดให้อร่อยเหมือนร้าน 

 

วิธีชงกาแฟสดให้อร่อยด้วยเครื่องชงกาแฟ

 

1. เลือกเมล็ดกาแฟให้เหมาะกับวิธีชงกาแฟสด: กาแฟดริป (Pour Over) มักใช้เมล็ดคั่วอ่อน-กลาง รสชาติเบา หอมผลไม้ หากชงด้วยเครื่องเอสเปรสโซ (Espresso) อาจใช้เมล็ดคั่วกลาง-เข้ม เพื่อความเข้มข้นและบอดี้ที่หนักแน่น 

  • Tips: เลือกเมล็ดที่คั่วไม่เกิน 2-4 สัปดาห์เพื่อความสดใหม่

 

2. บดกาแฟให้ถูกระดับ (Grind Size): การบดมีผลต่อการสกัดรสชาติ หากบดหยาบเกินไป → รสจืด สกัดไม่พอ แต่ถ้าบดละเอียดเกินไป → ขม เปรี้ยวเกิน หรือฝาด ฉะนั้น ควรใช้เครื่องบด Burr Grinder เพื่อควบคุมความละเอียดได้แม่นยำ นอกจากนี้ ยังควรเทียบ Grind Size กับแต่ละวิธีชงกาแฟสดด้วย เช่น French Press: หยาบ / Pour Over: กลาง-ละเอียด / Espresso: ละเอียดมาก

  • Tips: บดกาแฟใหม่ทุกครั้ง อย่าบดทิ้งไว้ เพราะผงกาแฟที่บดทิ้งไว้เกิน 15–20 นาที จะเริ่มเสื่อมกลิ่นและรส

 

3. ควบคุมสัดส่วน กาแฟ : น้ำ : ใช้เครื่องชั่งดิจิทัล (Digital Scale) เพื่อความแม่นยำทุกแก้ว เรียกว่า Brew Ratio เช่น วิธีชงกาแฟสดด้วยการ Drip: 1:15–1:17 (ผงกาแฟ 1 กรัม ต่อน้ำ 15–17 กรัม) / วิธีชงกาแฟสดด้วยเครื่อง Espresso: 1:2 (เช่น ผง 18g ได้กาแฟ 36g)

  • Tips: ชงด้วยเครื่องชั่ง (Digital Scale) ไม่ใช่แค่กะด้วยช้อน!



4. ควบคุมอุณหภูมิน้ำให้เหมาะสม: อุณหภูมิน้ำที่ทั่วไปที่แนะนำคือ 90–96°C แต่ก็ขึ้นอยู่กับเมล็ดกาแฟด้วย เช่น กาแฟคั่วอ่อน = ใช้น้ำร้อน 94–96°C / กาแฟคั่วเข้ม = ใช้น้ำ 88–92°C เพื่อไม่ให้ขมไหม้ แม้จะต่างกันไม่กี่องศา แต่ส่งผลต่อรสชาติแบบรู้สึกได้ชัดเจน

  • Tips: ใช้ Kettle แบบมีเทอร์โมมิเตอร์ หรือกาต้มน้ำควบคุมอุณหภูมิ

 

5. จับเวลาการสกัดอย่างแม่นยำ: ใช้ Timer หรือแอปกาแฟ ช่วยจับเวลา เพื่อความแม่นยำ เช่น Drip 2:30–3:30 นาที และเครื่องชง Espresso: 25–30 วินาที เพราะหากช้าเกิน = ขม / หากเร็วเกิน = จืด

  • Tips: เริ่มจับเวลา "เมื่อหยดแรกไหลออก" (Espresso) ถ้านับรวม Pre-infusion จะทำให้ตัวเลขเพี้ยน


6. เทน้ำให้ถูกวิธี (สำหรับ Pour Over): เริ่มต้นด้วย “Blooming” (เทน้ำเล็กน้อยให้ผงกาแฟพองตัว 30 วินาที) ค่อย ๆ รินน้ำแบบวงกลมช้า ๆ เพื่อสกัดรสชาติสม่ำเสมอ และใช้กาคอห่าน (Gooseneck Kettle) เพื่อควบคุมทิศทางน้ำ

  • Tips: จังหวะการเทน้ำควร “พักเป็นรอบ” ไม่ใช่เทรวดเดียว / ตอนเท Bloom (น้ำรอบแรก) ให้ชุ่มพอดี ไม่ใช่ท่วม


7. ฝึกฝนและปรับสูตร: สำหรับคนที่อยากเปิดร้านควรมีการจดบันทึกเมล็ดที่ใช้, ปริมาณ, เวลา, รสชาติ แล้วทดลองปรับความละเอียด, อุณหภูมิ, ปริมาณน้ำ เพื่อหารสชาติที่ชอบที่สุด

  • Tips: เปลี่ยนทีละตัวแปร เพื่อดูผลชัดเจน พร้อมเก็บตัวอย่างกาแฟที่ชงพลาดไว้ชิมเทียบ

 

วิธีการชงกาแฟสดก็มีหลากหลายวิธีซึ่งแต่ละวิธีก็ให้รสชาติที่แตกต่างกัน และเหมาะกับเมล็ดกาแฟ รวมถึงระดับการคั่วบดที่แตกต่างกัน ดังนั้นหากต้องการชงกาแฟสดดื่มที่บ้านก็ต้องหารสชาติที่ชอบ เพื่อจะได้เลือกเครื่องชง หรือวิธีการชงที่ถูกใจ รับรองว่าเมื่อได้ลิ้มรสกาแฟสดแล้ว ก็จะทำให้ลืมรสชาติกาแฟแบบเดิม ๆ ไปเลย

คั่วเอง ชงเอง อร่อยเอง! ด้วยเครื่องชงกาแฟ Beno ให้คุณควบคุมทุกขั้นตอนในการชงกาแฟ ตั้งแต่การเลือกเมล็ดกาแฟ การปรับระดับการบด และอุณหภูมิในการชง ทำให้คุณได้ลิ้มลองกาแฟรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณ ตอนนี้มีโปรโมชั่นสุดพิเศษ ลด 200 บาท เมื่อใส่โค้ดลด BENOA200 สุดคุ้มเฉพาะคุณ ที่ Shopee Thailand สายกาแฟห้ามพลาด!

 

เครื่องชงกาแฟ


More articles