ทุกวันนี้“กาแฟไม่มีน้ำตาล”เริ่มเป็นตัวเลือกยอดนิยมของคนที่ชอบดื่มกาแฟแล้วก็อยากดูแลสุขภาพไปพร้อม ๆ กันนะ ไม่ใช่แค่ช่วยลดแคลอรีหรือน้ำตาลส่วนเกินเท่านั้น แต่ยังทำให้เราได้สัมผัสรสชาติที่แท้จริงของกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นความหอมของกาแฟ รสขมกลมกล่อม หรือรสชาติของเมล็ดพันธุ์ในแต่ละแบบ
บทความนี้ เราจะพาทุกคนไปรู้จักกาแฟไม่มีน้ำตาลให้มากขึ้น พร้อมไอเดียที่จะช่วยรังสรรค์เมนูกาแฟไม่มีน้ำตาลให้พิเศษ และอร่อยขึ้นได้ง่าย ๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนพฤติกรรมจากการดื่มกาแฟหวานมาเป็นการดื่มกาแฟที่ดีต่อสุขภาพ แต่ยังคงรสชาติอร่อยถูกใจเหมือนเดิม
ความแตกต่างกาแฟไม่มีน้ำตาล VS กาแฟทั่วไป

- กาแฟไม่มีน้ำตาล
กาแฟไม่มีน้ำตาล ถือเป็นอีกหนึ่งกาแฟเพื่อสุขภาพ ที่หลายคนเรียกว่ากาแฟดำ 100% ไม่ว่าจะเป็นกาแฟร้อน กาแฟเย็น หรือแม้แต่กาแฟซอง ไม่มีน้ำตาลที่ระบุว่า “Sugar Free” ที่ไม่ใส่น้ำตาล นม หรือครีมใด ๆ เลย ข้อดีคือช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดีเพราะไม่มีแคลอรี่ส่วนเกินจากน้ำตาล และนม แถมยังเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ สำหรับใครที่อยากลิ้มรสความแท้จริงของกาแฟ การเลือกดื่มกาแฟแบบไม่มีน้ำตาลนี่แหละตอบโจทย์สุด ๆ เพราะจะได้สัมผัสทั้งกลิ่นหอม รสขมละมุน และความเข้มข้นของเมล็ดกาแฟแบบเต็ม ๆ โดยไม่ถูกเจือจางด้วยความหวาน แต่สำหรับมือใหม่ที่ไม่คุ้นเคย รสชาติอาจจะดูขม ๆ หน่อย และในช่วงแรกอาจดื่มยาก
- กาแฟทั่วไป
กาแฟทั่วไปที่เราดื่มกันทุกวัน เช่น ลาเต้ คาปูชิโน่ หรือมอคค่า มักจะใส่น้ำตาล นม หรือครีมเพิ่มเข้าไปเพื่อให้ดื่มง่ายและกลมกล่อมขึ้น สามารถปรับความหวาน ความเข้ม หรือความมันได้ตามชอบ แต่ข้อเสียคือถ้าใส่มากเกินไป อาจกลบกลิ่น และรสชาติของเมล็ดกาแฟ ทำให้ไม่สามารถสัมผัสถึงความแตกต่างของกาแฟแต่ละชนิดได้
แคลอรีในกาแฟไม่มีน้ำตาล
หลายคนอาจเข้าใจว่ากาแฟไม่มีน้ำตาล ไม่มีแคลอรีเลย แต่จริง ๆ แล้วกาแฟไม่มีน้ำตาล หรือกาแฟเอสเปรสโซ่ปริมาณ 1 ช็อต (ประมาณ 30 มล.) จะมีแคลอรีเพียงประมาณ 3 - 5 แคลอรี เท่านั้น ส่วนถ้าเป็นกาแฟดำอย่างอเมริกาโน่ผสมน้ำเปล่าเข้าไป จะมีแคลอรีเพียงประมาณ 11 - 15 แคลอรี ซึ่งถือว่าน้อยมากจนแทบไม่ส่งผลอะไรกับร่างกายเลย
ปริมาณคาเฟอีนในกาแฟไม่มีน้ำตาล
ปริมาณคาเฟอีนในกาแฟไม่มีน้ำตาล จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ประเภทของกาแฟเท่านั้น
-
ชนิดของเมล็ดกาแฟ : เมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าจะมีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่าอาราบิก้าถึง 2 เท่า
-
ระดับการคั่วกาแฟ : กาแฟคั่วอ่อน (Light Roast) มักจะมีคาเฟอีนสูงกว่ากาแฟคั่วเข้ม (Dark Roast)
-
วิธีการชง : วิธีการชงแบบเอสเปรสโซ่ หรือกาแฟดริป จะทำให้มีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่าการชงแบบกาแฟสกัดเย็น (Cold Brew)
โดยทั่วไปแล้วกาแฟดำปริมาณ 1 แก้ว (355 มล.) จะมีคาเฟอีนเฉลี่ยอยู่ที่ 90 - 150 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่ช่วยให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว และกระปรี้กระเปร่า
กาแฟไม่มีน้ำตาล เหมาะกับใครบ้าง ?

1. คนกำลังลดน้ำหนัก หรือควบคุมน้ำหนัก
สำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก บอกเลยว่าการหันมาดื่มกาแฟไม่มีน้ำตาล คือทางเลือกที่เวิร์กสุด! เพราะน้ำตาลในกาแฟปกติคือแหล่งแคลอรีที่หลายคนมองข้ามไป อย่างกาแฟลาเต้หนึ่งแก้ว อาจมีปริมาณน้ำตาลถึง 20 - 30 มล. แต่ถ้าเปลี่ยนมาดื่มกาแฟไม่มีน้ำตาล เราก็ยังได้ความสดชื่นจากกาแฟเหมือนเดิม
2. คนรักสุขภาพ หรือสายออกกำลังกาย
คาเฟอีนในกาแฟไม่มีน้ำตาล ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน และเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายได้ดีขึ้น การดื่มกาแฟดำในตอนเช้า หรือดื่มก่อนออกกำลังกายประมาณ 30 นาที เป็นสิ่งที่คนชอบออกกำลังกายนิยมทำหัน เพราะให้พลังงานโดยไม่มีแคลอรี่ส่วนเกิน ทำให้การออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องควบคุมน้ำตาล
สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน การควบคุมปริมาณน้ำตาลในแต่ละวันเป็นสิ่งสำคัญมาก กาแฟไม่มีน้ำตาลจึงเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
4. คนที่ต้องลิ้มรสชาติกาแฟที่แท้จริง
สำหรับคอกาแฟตัวจริง ที่ชอบอยากสัมผัสรสชาติกาแฟแท้ ๆ แบบเต็มคำ ไม่ว่าจะเป็นความขม ความหอม หรือกลิ่นเฉพาะของเมล็ด กาแฟไม่มีน้ำตาลก็เลยตอบโจทย์คนกลุ่มนี้สุด ๆ เพราะมันทำให้ได้ชิมรสกาแฟจริง ๆ
เปลี่ยนกาแฟไม่มีน้ำตาลให้พิเศษขึ้น ด้วยเครื่องชงกาแฟ Beno ง่าย ๆ ที่บ้าน
การดื่มกาแฟถือเป็นกิจวัตรประจำวันที่หลายคนชื่นชอบ แต่สำหรับคนที่เลือกดื่มกาแฟไม่มีน้ำตาล อาจรู้สึกว่ารสชาติขาดความหวาน หรือความกลมกล่อมเหมือนกาแฟทั่วไป ไม่ต้องกังวลเลยเราสามารถเพิ่มความพิเศษให้กับกาแฟไม่มีน้ำตาลได้ง่าย ๆ ที่บ้าน แบบไม่ต้องเติมน้ำตาล
- เพิ่มความหอม และรสชาติด้วยส่วนผสมอื่น ๆ

การใช้ส่วนผสมต่าง ๆ จะช่วยเติมเต็มรสชาติให้กับ กาแฟไม่มีน้ำตาลโดยไม่เพิ่มแคลอรีส่วนเกิน โดยการเพิ่มความหอมด้วยวานิลลา และเพิ่มความเข้มข้นด้วยโกโก้ ถือเป็นวิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้กาแฟของแก้วโปรดของเรานั้นดื่มง่าย และหอมมากขึ้น
ส่วนผสม :
-
เอสเปรสโซ 1 ช็อต
-
ผงโกโก้แท้ 100% ประมาณ 1-2 ช้อนชา
-
วานิลลาสกัด (Vanilla Extract) ประมาณ 1/4 - 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ :
-
เติมเมล็ดกาแฟที่บดแล้วลงในตัวเครื่อง แล้วกดปุ่มเพื่อสกัดกาแฟ
-
ตักผงโกโก้แท้ 1-2 ช้อนชาใส่ในแก้ว
-
ชงกาแฟเอสเปรสโซ่ด้วยเครื่อง Beno BN3
-
เทกาแฟที่ชงแล้วลงในแก้วที่มีผงโกโก้
-
หยดวานิลลาสกัดลงในกาแฟประมาณ 1/4 - 1/2 ช้อนชา
-
คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
- เพิ่มความกลมกล่อม ด้วยนมทางเลือก

กาแฟไม่มีน้ำตาลใช่ว่าจะเป็นกาแฟดำเสมอไป สำหรับใครที่อยากได้ความ creamy แต่ไม่อยากใช้นมวัว นมพืชคือทางเลือกที่ดีที่สุด เช่น นมอัลมอนด์นมโอ๊ต หรือนมถั่วเหลือง และถ้าเลือกชงจากเครื่องชงกาแฟ BN3 MILK Touch จาก Beno จะช่วยให้ตีฟองนมได้เนียนละเอียด ผสมกับกาแฟแก้วโปรดของเราได้ง่าย ๆ
ส่วนผสม :
-
เอสเปรสโซ 1 ช็อต
-
นมอัลมอนด์, นมโอ๊ต, หรือนมถั่วเหลือง (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง) ประมาณ 180 มล.
วิธีทำ :
-
เติมเมล็ดกาแฟที่บดแล้วลงในตัวเครื่อง แล้วกดปุ่มเพื่อสกัดกาแฟ
-
เทนมพืชลงในช่องสำหรับใส่นมของเครื่องชงกาแฟ
-
สตรีมนมให้ร้อน
-
เทส่วนผสมลงในแก้วกาแฟ โดยใส่กาแฟไว้ด้านล่างแล้วตามด้วยนม
-
แต่งด้วยโฟมนมหรือลาเต้อาร์ตตามชอบ
- สร้างสรรค์เมนูกาแฟไม่มีน้ำตาล ด้วยน้ำผลไม้

การเพิ่มน้ำผลไม้ลงในกาแฟไม่มีน้ำตาลเป็นการเปิดโลกใหม่ของรสชาติ ทำให้ได้ความเปรี้ยวอมหวานจากธรรมชาติที่เข้ากันได้ดีกับความเข้มของกาแฟ แถมยังทำให้แก้วกาแฟของเราดื่มแล้วสดชื่นขึ้นอีกด้วย วันนี้เราจะมานำเสนอเมนูสุดฮิตอย่างกาแฟส้ม ไปดูวิธีทำที่ง่ายแสนง่ายด้วย OGGI เครื่องชงอัตโนมัติ รุ่น GB2 แบบ all-in-one กันเลย!
ส่วนผสม :
-
เอสเปรสโซ 1-2 ช็อต (ตามชอบ)
-
น้ำส้มคั้นสด 80 มล.
-
น้ำแข็ง
วิธีทำ :
-
เติมเมล็ดกาแฟที่บดแล้วลงในตัวเครื่อง แล้วกดปุ่มเพื่อสกัดกาแฟ
-
เทน้ำส้มคั้นสดลงในแก้วที่เตรียมไว้
-
ใส่น้ำแข็งลงไปในแก้ว
-
ค่อย ๆ เทกาแฟเอสเปรสโซ่ลงไป
การดื่มกาแฟไม่มีน้ำตาล ไม่ได้จำกัดอยู่แค่รสขม ๆ อีกต่อไป ลองเอาไอเดียเหล่านี้ไปปรับใช้ แล้วทุกคนจะพบว่า กาแฟไม่มีน้ำตาลก็สามารถทำให้อร่อยขึ้น และปรับให้โดนใจกับเราได้ ไม่แพ้กาแฟประเภทอื่นเลย
ดื่มกาแฟไม่มีน้ำตาลให้อร่อยและสุขภาพดี ง่าย ๆ แค่มีเครื่องชงกาแฟจาก Beno
การดื่มกาแฟไม่มีน้ำตาล ช่วยให้เราได้ลิ้มรสชาติความเข้มข้น กลิ่นหอมแท้ ๆ ของเมล็ดกาแฟ พร้อมดูแลสุขภาพและควบคุมน้ำหนักได้ อีกทั้งทุกคนยังสามารถสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ จากกาแฟไม่มีน้ำตาลแก้วเดิม ๆ ให้กลายเป็นเมนูพิเศษได้ไม่ซ้ำวัน และตอนนี้ทุกคน สามารถทำกาแฟแก้วโปรดได้ง่ายขึ้นที่บ้านด้วย เครื่องชงกาแฟ Beno ดีไซน์ระดับพรีเมียม ฟังก์ชันครบ จบในเครื่องเดียว ทำให้ได้กาแฟที่อร่อยลงตัวเหมือนชงจากคาเฟ่เลย และถ้าอยากลองเปลี่ยนประสบการณ์การดื่มกาแฟไม่มีน้ำตาลให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป สามารถช้อปอุปกรณ์ชงกาแฟ Beno ได้ที่ Shopee พร้อมรับโปรโมชั่น ลดราคาพิเศษ 200 บาท เมื่อใช้โค้ด BENOA200 ให้ทุกแก้วกาแฟของทุกคนทั้งอร่อย และฟินได้ไม่จำกัด!